แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ถ้ายกตัวอย่างนะครับ โดยที่ไม่จำเป็นที่ต้องพูดถึงการปฏิบัติธรรมที่ลึกซึ้งอะไร เหมือนกับแม่ที่มีความรู้สึกกับลูกต่อลูก ไม่รู้สิ ความรู้สึกของแม่ก็คือมีความสุขที่ได้จะให้ลูก เป็นความสุข เป็นพลัง เป็นความหมายที่ยิ่งใหญ่ไม่มีใครมาบังคับเลย นะ แม่หลายคนทำงานหนัก แม่หลายคนมีชีวิตอยู่อย่างลำบากทั้งที่ความจริงจะหลีกหนีปฎิเสธเสียก็ได้แต่เพื่อลูกแม่กับทำ
ผมเคยมีลูกศิษย์ที่เราคุยเรื่องนี้กันแล้วน้ำตาไหลออกมา คือผมขอโทษ ถ้าเล่าเรื่องลูกศิษยฺก็ต้องเล่าเรื่องหนึ่ง เล่าให้เป็นเรื่องหนึ่งยังไม่เข้าใจอีก มีลูกศิษย์ของผมคนหนึ่งเรียนจบแล้วไปเป็นครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ วันหนึ่งก็โทรศัทพ์มาแล้วผมก็ได้คุย โทรศัพท์กับเขาๆ ก็บอกว่าหนูอยากจะเชิญอาจารย์มาคุยกับคณะครูที่โรงเรียนหนูสักหนึ่งครั้งได้มั้ย ผมบอกว่าได้สิ จะให้ ไปวันไหนก็มารับไปได้เลยเพียงแจ้งให้ผมทราบล่วงหน้าไม่งั้นผมจะไม่อยู่บ้าน แล้ววันหนึ่งเขาก็นัดหมายผมแล้วขับรถมารับผม เขามากันคือขับรถผู้ชายสามีเขาเป็นคนขับรถ รถของเขาเป็นรถปิกอัพนะครับเป็นรถปิกอัพที่เป็น 2 ตอน ไม่ใช่ 2 ตอนสิ ประตูเดียวเนี่ยแต่เวลาเราจะขึ้นนั่งข้างหลังเราต้องเอาพนักผิงมาข้างหน้าและไปนั่งหลัง
ทีนี้พอมาเช่นนั้นผมจึง บอกว่าผมจะขึ้นไปนั่งข้างหลังให้เขานั่งคู่กับคนขับข้างหน้าเพราะเขามีลูกด้วย เขาบอกว่าไม่ได้ ๆ อาจารย์ต้องนั่งข้างหน้า เขาจะไปนั่งข้างหลัง แล้วก็เขาก็รีบขึ้นไปบนรถแล้วนั่งข้างหลังแล้วให้ผมขึ้น โอเคเขาทำเช่นนั้นผมก็ไม่ว่าอะไร ว่าสามีเขาขับรถออกจากบ้านผม เขาก็ถามผมในความหมายว่า หนูไม่ได้เจออาจารย์นานแต่คิดถึงอาจารย์อยู่เสมอ ดูอาจารย์ ในทีวีบ้าง อ่านหนังสืออาจารย์บ้าง อยากเจออาจารย์มาก จริงๆ โรงเรียนเขาคงก็ไม่ตั้งใจเท่าไร แต่หนูเสนอเขาเองว่าให้ เชิญอาจารย์ แล้วโรงเรียนก็ยอมก็เลยหนูก็เลยจริงๆ หนูอยากฟังอาจารย์พูดอยากคุยกับอาจารย์
และเขาก็ถามผมในความหมายถึงว่า ถ้าวันนี้อาจารย์จะต้องสอนหนูอีกอาจารย์มีอะไรจะสอนหนูมั้ย...บอกไม่มี สิ่งที่ผมสอนพวกคุณทั้งหมด ตอนที่ผมเป็นครูสอนหนังสืออยู่ในมหาวิทยาลัย และผมปรารถนาจะให้คุณรู้มากที่สุดตอนนี้คุณรู้แล้วเลยไม่มีความจำเป็นที่ต้องสอน ไม่ว่าผมจะสอนวิชาอะไรตอนที่ผมอยู่ในมหาวิทยาลัย ผมอยากให้คนทุกคนมีความรู้ชุดหนึ่งแล้วมีความหมายในตัวเองเหมือนกับเราเป็นแม่ ผมไม่รู้จะบอกว่ายังไงแต่คนที่มีความสำนึกว่าเป็นแม่เนี่ย อันที่หนึ่งคือจะไม่ประทุษร้ายลูกเลย อันที่สองจะมีพลังอย่างมหาศาลเกิดขึ้นในชีวิตจิตใจที่ปฏิบัติกิจหน้าที่การงานทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูก คนๆ หนึ่งอาจจะไม่ เคยอยากจะตื่นนอนในกลางยามค่ำคืน ตัวเองนอนสายด้วยซ้ำไป แต่ทันทีที่มีลูกอาจจะตื่นนอนเวลาไหนก็ได้ อาจจะไม่ได้นอนเลยทั้งคืนก็ได้ คนๆ หนึ่งที่อาจอยากจะทำอะไรแล้วทำมาได้ตลอด แต่วันหนึ่งไม่ทำสิ่งนั้นเพราะเหตุว่าสิ่งนั้นจะเป็นโทษกับลูก ความรู้สึกแบบนี้คือความรู้ที่พิเศษยิ่งใหญ่ที่ผมปรารถนาจะมอบให้กับลูกศิษย์ผมทุกคน แต่ขอโทษด้วยความสัตย์จริงผมทำไม่สำเร็จ เพราะสิ่งที่ผมอยากจะให้คนเหล่านี้มันยากเกินไป แต่ผมเชื่อว่าปัจจุบันนี้น่ะครับคุณมีความรู้นั้นแล้ว โดยธรรมชาติของความเป็นแม่ โปรดรู้เถอะว่าผมปรารถนาให้คุณรู้ความรู้นี้แหล่ะ ผมพูดไปก็เงียบเลยนะก็หันเข้าไปมอง ปรากฎว่า ขอโทษลูกเขาอายุยังน้อยมากเขากอดลูกแล้วก็ร้องไห้ ผมรู้เลยว่าเขารู้แล้วและก็ไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้นแต่ความหมายที่ผมพูดถึงเช่นนี้ก็คือ กำลังพูดถึงพลังชีวิต พลังชีวิตที่พอถึงจุดๆ หนึ่งแล้วมันเกิดขึ้นในเนื้อในตัวเรา แล้วมันเป็นพลังที่ทำให้เรามีความหมายที่สำคัญ