สร้างสรรค์สังคมรมณีย์กับสวนโมกข์กรุงเทพ
ออกกำลังใจ (Mindfulness Training)
กิจกรรม การอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากร (สำหรับองค์กรภายนอก)
เป็นโครงการที่จะเสริมสร้างให้เกิดองค์กรที่พนักงานทำงานด้วยความสุข โดยตั้งอยู่บนฐานของการมีสติ, ตระหนักรู้ตนเอง, เข้าใจตนเองและความเกี่ยวเนื่องกับผู้อื่น ผ่านการออกแบบกิจกรรม โดยนำหลักพุทธศาสนามาใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมให้คนในองค์กรเกิดความสุข มีสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความงอกงามและนำมาซึ่ง “พลังการทำงานเชิงบวก” อันเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรรมณีย์
สวนโมกข์กรุงเทพได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการมีสติในองค์กร เพื่อสร้างความสุข ความพึงพอใจ และความเป็นอยู่ที่ดี (well-being) ให้แก่พนักงานขององค์กรในทุกระดับ ซึ่งจะส่งผลดีต่อองค์กรอย่างยั่งยืน ผ่านการออกแบบกิจกรรม โดยนำหลักพุทธศาสนามาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรตามหลักคิดเรื่องการสร้าง “สติ และ สมาธิ” ส่งเสริมให้คนในองค์กรเกิดความสุข องค์กรมีสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความงอกงาม และนำมาซึ่ง “พลังการทำงานเชิงบวก” อันเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรรมณีย์
จากเงื่อนไขดังกล่าวจึงเกิดมาเป็นกิจกรรมหลักทั้งหมด ๑๒ กิจกรรมซึ่งเรียงลำดับจากความเข้มข้นของการปฏิบัติจากน้อยไปมากดังนี้
โปรแกรมออกกำลังใจ
๑) เพลินธรรมนำชมปริศนาธรรม เรียนรู้ธรรมะผ่านการนำชมภาพปริศนาธรรมในสวนโมกข์กรุงเทพ ซึ่งเป็นแนวทางที่พุทธทาสภิกขุได้สร้าง “โรงมหรสพทางวิญญาณ” ขึ้นที่สวนโมกขพลารามเพื่อเป็นสื่อธรรมให้ผู้ที่สนใจได้รับความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนาและได้รับความเพลิดเพลินไปพร้อมกัน
๒) ตักบาตรไตรสิกขา กิจกรรมส่งเสริมให้เกิดการเข้าถึงหัวใจของศาสนาซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้เรื่องการทำบุญที่ถูกต้องตามหลักบุญกิริยาวัตถุ อันได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา โดยกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ด้านศาสนธรรมนี้ประกอบด้วยการฟังธรรมบรรยาย, เทศนาธรรม, ตักบาตรสาธิตแบบพุทธกาล, ทำวัตรสวดมนต์และปฏิบัติภาวนา
๓) ศิลปภาวนาชีวิตสิกขา เป็นกิจกรรมรูปแบบงานจิตอาสาที่ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ค้นหาความสงบจากภายในผ่านการภาวนากับงานศิลปะ ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ฝึกสติอยู่กับปัจจุบันขณะ เป็นการเรียนรู้และสังเกต “กาย ใจ” ขณะทำงาน โดยสิ่งของที่ทำเสร็จแล้วทั้งหมดจะถูกนำไปบริจาคให้แก่ผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้แก่ กิจกรรมปลาบีบเพื่อบริหารกล้ามเนื้อมือและกิจกรรมถุงชายผ้าเหลืองเติมใจผู้ป่วย
๔) Mandala Art กิจกรรมการฝึกสมาธิด้วยศิลปะระบายสีน้ำ “Mandala” อันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสมดุลและความสงบในใจ ขณะการระบายสีภาพ Mandala จะช่วยให้เราได้จัดลำดับและสร้างสมดุลในชีวิต ผ่านการเรียนรู้เทคนิคผสมสีตามอารมณ์เฉพาะในแบบฉบับของตัวเอง เป็นกิจกรรมที่สนุก ผ่อนคลาย พักจากความวุ่นวายของโลกภายนอก เมื่อจดจ่ออยู่กับการระบายสี Mandala
Mandala_Art_ศิลปะสร้างสมาธิ.pdf
๕) สมาธิกับขลุ่ยเซน กิจกรรมการใช้เครื่องดนตรีเป็นเครื่องมือส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกำหนดอารมณ์ให้เป็นสมาธิเพื่อนำเข้าสู่การภาวนาด้วยเสียงขลุ่ยเซน การมีสมาธิเพื่อรับรู้ความจริงผ่านประสาทสัมผัส อันได้แก่ การได้ยินเสียงขลุ่ย, เสียงลมหายใจ และความรู้สึกที่นิ้วมือ จะส่งเสริมให้เกิดการผ่อนคลาย (Relaxation) อย่างมีสติ (Awareness) และทำให้เกิดการตระหนักรู้ต่อสภาวะที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ทั้งจากแรงกระตุ้นภายในและภายนอก
๖) ฟังเสียงในจิตใจ กิจกรรมการฝึกทักษะ “การฟัง” อย่างใส่ใจด้วยการใช้คุณสมบัติของดนตรีผ่านเสียงภายนอก (ผู้คน สิ่งแวดล้อม และสิ่งรอบตัว) และเสียงภายใน (เสียงความคิด ความรู้สึก และร่างกาย) พร้อมทั้งฝึกวิธีนำ “สติ” มาใช้กับการฟังตนเองและผู้อื่น (Deep Listening) ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ตรงจากกิจกรรมร่วมกัน
๗) Crystal Singing Bowls กิจกรรมการฝึกโยคะเพื่อการเจริญสติ รู้กาย รู้ใจ เห็นธรรมะผ่านการอ่านร่างกายตัวเองในปัจจุบันขณะและฝึกสมาธิเพื่อความผ่อนคลายกับคลื่นเสียงบำบัด Crystal Singing Bowls เพื่อส่งเสริมให้เกิดสติทำให้สามารถรับรู้ปัญหาที่เกิดอยู่ตรงหน้า มีปัญญาในการแก้ไขสิ่งต่าง ๆ โดยใช้สติเป็นที่ตั้งและดึงความคิดที่ว้าวุ่นฟุ้งกระจายอยู่ภายนอกให้กลับมาอยู่กับตนเอง
หลักสูตรกิจกรรมครูดล_ธนววัชร์.pdf
๘) Tea Meditation Tea dialogue เป็นกิจกรรมซึ่งประกอบไปด้วย ๒ ช่วงคือ น้ำชาภาวนา (ช่วงเช้า) และสุนทรียสนทนาในวงน้ำชา (ช่วงบ่าย) โดยกิจกรรมน้ำชาภาวนาเป็นกิจกรรมที่พัฒนาสติ สัมปชัญญะ และจิตที่เป็นอิสระต่อความทุกข์ ด้วยกระบวนการชงชา ดื่มชา ผ่านผัสสะด้วยความตระหนักรู้อยู่กับความจริงในปัจจุบันขณะตามวิถีวิปัสสนากรรมฐาน ตามหลักสติปัฎฐาน ๔ ส่วนกิจกรรมสุนทรียสนทนาในวงน้ำชา (ช่วงบ่าย) เป็นกิจกรรมพัฒนาการสื่อสารอย่างมีสติด้วยคุณภาพของใจที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ส่งเสริมการรู้จักตระหนักรู้ต่อตนเองและผู้อื่น ด้วยพลังแห่งสติสัมปชัญญะ สร้างความดุลแบบองค์รวม คือกาย อารมณ์ สังคม จิตวิญญาณ ก่อให้เกิดการยอมรับความแตกต่างด้วยความตระหนักรู้
Tea_Meditation_Tea_dialogue.pdf
๙) โยคะภาวนากับการเยียวยากายใจ วิถีแห่งสติเพื่อการบำบัดร่างกาย เป็นการฝึกภาวนาในขณะฝึกโยคะ เพื่อให้เกิดสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน โดยกิจกรรมนี้นำท่าอาสนะต่าง ๆ มาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน เน้นการคัดเลือกท่าที่ไม่ยากเกินไป เพื่อให้ทุกคนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันในทุกอิริยาบถ ทั้งการยืน การเดิน การนั่ง และการนอน นอกจากการฝึกท่าแล้วเป็นการพัฒนาจิต ช่วยบริหารร่างกาย ปรับสมดุล ระบบต่าง ๆ ของร่างกายให้มีความสมดุลมากขึ้น ลดอาการบาดเจ็บจากการทำงานและการใช้ชีวิต เพื่อให้มีบุคลิกภาพที่ดีทั้งกายและใจ เป็นการภาวนาทำให้มีจิตที่มั่นคง ผ่อนคลาย มีความสงบเป็นที่ตั้ง
หลักสูตรกิจกรรมครูดล_ธนววัชร์.pdf
๑๐) Hello! Mindfulness การอบรมธรรมะโดยวิทยากรซึ่งส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้เกี่ยวกับการฝึกสติผ่านทฤษฎีและการเรียนรู้ผ่านเรื่องราวในชีวิตรวมทั้งการทำงานเพื่อสร้างความตระหนักรู้ (Awareness) ถึงความสำคัญและประโยชน์ของสติ ทำให้เกิดการตระหนักรู้ตนเอง (Self-Awareness) สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ในชีวิตประจำวัน
หลักสูตรกิจกรรมครูดล_ธนววัชร์.pdf
๑๑) ภาวนาด้วยหัวใจอันประเสริฐ ยิ้มจากหัวใจ กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาคุณสมบัติภายใน คือ (อยู่ในขั้นทำความเข้าใจ) สติ สัมปชัญญะ ความเมตตา กรุณา และความกล้าหาญเพื่อเป็นเครื่องมือในการรักษาจิตที่เป็นอกุศลให้กลายเป็นกุศล ป้องกันจิตอกุศลที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้นและพัฒนาจิตเป็นกุศลให้งอกงามยิ่งขึ้นไป ผลคือความสุข ความแจ่มใส เบิกบาน และมีสัมพันธภาพที่ดีในการใช้ชีวิต
ภาวนาด้วยหัวใจอันประเสริฐ_ยิ้มจากหัวใจ.pdf
๑๒) ความตายออกแบบได้ การอบรมธรรมะโดยวิทยากรซึ่งใช้การพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องความตายที่เป็นความจริงว่าทุกคนต้องประสบพบเจอ เป็นกิจกรรมที่จะชวนออกแบบชีวิตที่เหลืออย่างมีคุณค่าผ่านบทบาทสมมติการตายของตัวเองและการตายของบุคคลอันเป็นที่รักเพื่อเตรียมใจรับมือกับความพลัดพรากสูญเสีย หรือจำลองการเปลี่ยนภพภูมิเพื่อตระหนักในกรรมหรือการกระทำ ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดความความเข้าใจต่อชีวิต เห็นคุณค่าของการมีชีวิตและความมีความเมตตารวมทั้งการให้อภัยต่อตนเองและผู้อื่น
หลักสูตรกิจกรรมครูดล_ธนววัชร์.pdf
แบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลติดต่อขอจัดกิจกรรม
https://forms.office.com/r/ZH6XinePki
หมายเหตุ:
- สามารถขอใบเสนอราคาของกิจกรรมที่สนใจและแก้ไขใบเสนอราคาได้ ๑ ครั้ง ภายในระยะเวลา ๒ สัปดาห์ก่อนเริ่มกิจกรรม และชำระเงินก่อนวันจัดกิจกรรมอย่างน้อย ๗ วัน
- โปรดติดต่อเพื่อการดำเนินกิจกรรมล่วงหน้าอย่างน้อย ๑ เดือน เป็นต้นไป
- สามารถจัดกิจกรรมได้เฉพาะวันจันทร์ - ศุกร์ เนื่องจากความพร้อมด้านสถานที่และตารางเวลาของวิทยากร
- ค่าใช้จ่ายไม่รวมถึงอาหาร ซึ่งทางองค์กรจะต้องเตรียมอาหารเบรกและอาหารกลางวันด้วยตนเอง (กำหนดภาชนะใส่อาหาร งดใช้โฟมเพื่อเป็นการรักษ์โลก) โดยทางสวนโมกข์มีบริการน้ำดื่ม แต่ขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมกิจกรรม จัดเตรียมกระบอกน้ำส่วนตัวเพื่อลดการเกิดขยะ
- สถานที่จอดรถ สามารถจอดที่สวนโมกข์กรุงเทพ ได้ไม่เกิน ๑๐ คัน (ติดต่อแจ้งหมายเลขทะเบียนรถกับเจ้าหน้าที่ ล่วงหน้าวันกิจกรรม ๗ วันทำการ) หากต้องการที่จอดรถเพิ่ม สามารถจอดรถได้ในที่พื้นที่จอดรถของสวนวชิรเบญจทัศ(สวนรถไฟ) ซึ่งมีค่าบริการ ๖๐ บาท/วัน
ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร ๐๘๗ ๐๔๖ ๘๕๕๓ หรือ ๐๒ ๙๓๖ ๒๘๐๐
Line: @suanmokkh
Email: narisara_s@bia.or.th
Website: www.bia.or.th
