พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 13 มิถุนายน 2568

ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีแม่ลูกสอง ลูกคนหนึ่งอายุ 5 ขวบ อีกคนหนึ่ง 7 ขวบ แม่พาลูกไปเที่ยวห้าง ปรากฏว่าเงินสดไม่พอ ก็เลยไปกดเงินที่ตู้ ATM ลูกก็ไปด้วย

ระหว่างที่แม่กดเงินที่ตู้ ATM ลูกคนหนึ่งสังเกตเห็นโปสเตอร์ที่ข้างฝา เป็นโปสเตอร์ที่บอกว่าห้ามคุยโทรศัพท์มือถือขณะที่ใช้เครื่อง ATM

เสร็จแล้วเด็กมาสังเกตเห็นมีปู่คนหนึ่งอายุน่าจะราวๆ 80 ปี อยู่ใกล้ ๆ กำลังกดเงินที่ตู้ ATM แล้วก็คุยโทรศัพท์ไปด้วย เด็ก ๆ เห็นเลยบอกแม่ว่า แม่ ๆ ๆ คุณปู่คนนี้ทำเหมือนภาพในโปสเตอร์เลย แม่ก็หันไปดู แม่เลยไปบอกคุณปู่คนนั้นว่าอย่ากดเงินขณะที่คุยโทรศัพท์มือถือ

แกไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาจะกดอย่างเดียว คุยไปด้วย กดไปด้วย แม่ทำอย่างไร แม่โทรถึงตำรวจ แล้วบอกตำรวจให้คุยกับคุณปู่คนนี้ดู เสร็จแล้วแม่ก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้คุณปู่คนนั้น

ที่นี้แกฟัง พอตำรวจอธิบายว่าที่ห้ามทำอย่างนั้น เพราะว่าอาจจะเป็นอุบายของพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คุณปู่เลยเลิก ไม่กดเงิน

ตอนหลังได้ความว่า คนที่โทรศัพท์ไปเป็นพวกมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหลอกให้คุณปู่โอนเงินไปให้ ดีที่แกยังโอนไม่สำเร็จมีเด็กมาขวางเสียก่อน

ปรากฏว่าเป็นข่าวขึ้นมา เพราะว่าตำรวจเห็นว่าเด็ก 2 คนนี้เป็นพลเมืองดี ช่วยทำให้คุณปู่ไม่สูญเสียเงินซึ่งไม่รู้ว่าจำนวนเท่าไร อาจจะเป็นหลายล้านเยน หรืออาจจะเป็นเงินเก็บทั้งหมดของแกก็ได้

เพราะว่าคนแก่เจอพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแบบนี้เยอะมาก บางทีอ้างว่าเป็นหมอ เป็นตำรวจ ลูกกำลังเจ็บกำลังป่วย ประสบอุบัติเหตุ ต้องการค่ารักษาพยาบาลด่วน คนแก่ตกใจ รีบโอนเงินให้ แบบนี้คนไทยเราคุ้นดีอยู่แล้วว่าเขามีอุบายอย่างไรบ้าง

บังเอิญของญี่ปุ่น การโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถืออาจจะไม่ค่อยสะดวก ที่ญี่ปุ่นเขาไม่ค่อยนิยม จะโอนต้องใช้เครื่อง ATM เขาเลยมีโปสเตอร์ติดเอาไว้ใกล้ ๆ ตู้ ATM ทุกแห่งว่า อย่าคุยโทรศัพท์มือถือขณะใช้เครื่อง ATM

ตำรวจชื่นชมน้ำใจของเด็ก 2 คนนี้เป็นพลเมืองดี เลยมอบประกาศนียบัตรให้ กลายเป็นข่าว

เรื่องนี้น่าสนใจ เด็ก 5 ขวบ 7 ขวบ รู้จักสังเกต คนเราเวลาเห็นโปสเตอร์ติดตามฝาผนังไม่ค่อยสนใจดู สนใจอ่านเท่าไร แต่เด็กญี่ปุ่นเขาสนใจ

พวกเราลองสังเกตตัวเราเองบ้างไหม เวลาไปที่ไหนแล้วมีโปสเตอร์เกี่ยวกับสุขภาพก็ดี เกี่ยวกับเตือนภัยต่าง ๆ ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยอ่าน แต่เด็กญี่ปุ่นเขาอ่าน อย่างน้อยก็เด็ก 2 คนนี้ พออ่านปุ๊บก็แจ็คพอต เพราะว่าไปเห็นคนแก่กำลังกดเงินขณะคุยโทรศัพท์พอดี แล้วเด็กก็ไม่ได้นิ่งเฉย บอกแม่ว่า คุณปู่คนนี้เขาทำเหมือนภาพโปสเตอร์เลย

แม่ของเด็กก็ดี แทนที่จะถือว่าไม่ใช่ธุระ ก็ใส่ใจ ไปพูดเตือนคุณปู่ แต่คุณปู่ไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาจะกดเงินส่งไปให้ปลายสาย อาจจะเพราะความตกใจหรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ ไม่สนใจใครมาเตือน แต่แม่ของเด็กก็ไม่ลดละ โทรหาตำรวจ ให้มาช่วยคุยกับคุณปู่คนนี้ด้วย เลยได้ผล ช่วยทำให้คนแก่คนหนึ่งไม่ต้องสูญเสียเงินไป ซึ่งอาจจะเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ก็ได้

แบบนี้แสดงถึงน้ำใจ ความใส่ใจ เวลาเห็นคนที่ทำท่าว่าจะกำลังเดือดร้อน ไม่อยู่นิ่งเฉย ต้องพยายามช่วย เช่นเดียวกับเด็ก เด็ก 2 คนนี้ก็เหมือนกัน ช่างสังเกต และไม่นิ่งดูดาย

เดี๋ยวนี้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นสิ่งที่ควรจะรับรู้ และเด็ก ๆ ควรจะรู้ด้วย ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่อย่างเดียว เรื่องนี้เป็นความรู้รอบตัว รวมทั้งความรู้เวลาเด็กถูกหลอก ถูกมิจฉาชีพหรือคนแปลกหน้าหลอก อ้างว่าแม่ให้มารับ เดี๋ยวนี้ก็มี พวกแก๊งลักพาตัวเด็ก

อย่างเด็กคนหนึ่งชื่อ เลอเล่อ กำลังจะโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกพาไปขึ้นรถไฟ แต่ว่ารถไฟยังไม่ทันมา ขณะรออยู่ที่ชานชาลา คนพวกนี้อ้างว่าแม่ให้มารับ แต่เด็กเห็นผิดสังเกต ทำอย่างไรดี

พอมีคนแปลกหน้าหลอกจะมาพาขึ้นรถไฟ เด็กก็นึกถึงคำสอนของพ่อแม่ที่เคยบอกว่า ถ้าเจอคนแปลกหน้ามาหลอก ให้เรียกหาตำรวจ หรือไม่เช่นนั้น ให้เรียกคนที่อยู่ใกล้ ๆ ขอความช่วยเหลือจากเขา

เลอเล่อมีปฏิภาณ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านมาใกล้ ๆ เขาก็เรียก ตะโกนเลย “แม่ ๆ ทำไมแม่พึ่งมา ทำไมแม่มารับสาย” มิจฉาชีพตกใจ นึกว่าแม่จริง ๆ มา รีบหนีไปเลย

ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร แต่ว่ากลายเป็นคนที่ช่วยเลอเล่อไว้ได้ เพราะว่ามิจฉาชีพเขาจะกลัวอยู่แล้ว กลัวแม่ตัวจริง

เลอเล่อฉลาด มีปฏิภาณ จำคำสอนของแม่ได้ว่า ถ้ามีใครมาหลอก ก็ให้ใช้อุบายนี้

สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นพาเลอเล่อไปหาตำรวจ ตำรวจก็พาไปส่งบ้าน ก็เลยปลอดภัย

อันนี้เป็นความรู้รอบตัวที่ต้องมีกันไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กต้องมีเพราะเดี๋ยวนี้ถูกหลอกได้ง่ายมาก.