พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 21 มิถุนายน 2568
มีบ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ข้างหน้าเป็นสนามหญ้าเขียว แต่ว่าเปิดประตูออกไปจะยังไม่เจอสนามหญ้า มีระเบียงอยู่ข้างหน้า เป็นระเบียงไม้ มีราวระเบียง และมีลูกกรง ลูกกรงแต่ละช่องห่างประมาณสัก 5 นิ้ว
มีครอบครัวหนึ่งเพิ่งย้ายเข้ามา พ่อ แม่ และลูก ลูกยังเล็ก 3-4 ขวบ ลูกชอบระเบียง เพราะว่ามันโล่งดี แล้วก็เอาของเล่นมาเล่นที่ระเบียง
วันดีคืนดีเอาหัวลอดเข้าไปในระหว่างลูกกรง ตอนเอาหัวลอดออกไป มันลอดได้ แต่พอจะดึงกลับมา ดึงไม่ได้ หัวติดลูกกรง
เด็กพยายามดึง ดึงเท่าไรก็ไม่หลุดจากลูกกรง เด็กเริ่มร้องแล้ว ให้พ่อมาช่วย พ่อเห็นก็พยายามบอกให้เด็กลองเอียงหัวดู เอียงซ้าย แล้วก็ดึงหัวออกมา ก็ไม่ได้ เอียงขวา ดึงออกมา ก็ยังไม่หลุดจากลูกกรง พ่อเลยบอกว่า ดึงแรง ๆ ก็ไม่หลุด ครั้นพ่อจะมาช่วยดึงด้วย เด็กก็บอก เจ็บ ๆ ๆ
ทำอย่างไรดี ทำมาแล้ว 10 นาทียังไม่ประสบความสำเร็จ พ่อเลยพยายามถ่างลูกกรง แต่ว่าถ่างเท่าไรลูกกรงก็ไม่ขยับ เด็กทำท่าจะเสียขวัญแล้ว เพราะว่าติดอยู่ตรงลูกกรง 20 นาทีแล้ว พ่อเลยบอกว่า อย่างนั้นมีวิธีเดียว คือเลื่อยลูกกรงออกมา
พ่อเข้าไปในบ้าน จะไปเอาเลื่อยมาตัดลูกกรง ไปหาเลื่อยอยู่พักใหญ่ พอออกมาที่ระเบียง ปรากฏว่าลูกหลุดจากลูกกรงแล้ว ออกมาเดินเล่นได้สบาย
ลูกทำอย่างไร พ่องง ลูกออกมาได้อย่างไร เมื่อกี้เราพยายามตั้ง 20 นาที ดึงหัวออกมาเท่าไรก็ไม่หลุด แต่พอพ่อไม่อยู่ หายไปแค่ไม่กี่นาที ลูกกลับหลุดจากลูกกรงแล้ว
ลูกบอกว่า นึกได้ว่าลองขยับตัวเลื่อนออกจากลูกกรง หรือออกไปข้างหน้า พอเอาตัวลอดลูกกรง ก็ลอดได้ง่ายมาก แทนที่จะดึงหัวออกมา ก็ขยับตัวออกไป มันก็หลุด
พ่อได้คิด โอ้ เราคิดแต่ทางเดียว คือพยายามดึงออกมา แต่ที่จริง ถ้าขยับตัวออกไป มันก็ได้เหมือนกัน แต่ทำไมคิดไม่ออก คิดแต่ว่า ถ้าดึงไม่ออกต้องเลื่อยลูกกรง ซึ่งอาจจะทำให้ทรัพย์สินเสียหาย เด็กก็ฉลาด ถึงแม้ว่าจะพยายามดึงเท่าไร ดึงไม่ออก แต่พอเขาขยับตัว แล้วเอาตัวลอดลูกกรง ลอดได้
เราคงเคยเจอประสบการณ์ทำนองนี้ พยายามผลักประตูเท่าไรก็ผลักไม่ออก ผลักเท่าไรก็ผลักไม่ออก ดูว่ามันล็อคหรือเปล่า มันก็ไม่ได้ล็อค แล้วทำไมผลักไม่ออก ๆ อารามรีบร้อนก็พยายามผลักอย่างเดียว แต่เราลืมไปว่า ถ้าเราลองดึงออก พอเราดึงประตู มันเปิด แต่ทำไมเราจึงนึกไม่ออก
เพราะเราคิดแต่ทางเดียว คิดแต่จะผลัก ๆ แต่ว่าไม่คิดที่จะดึงมันออกมาบ้าง เพราะว่าประตูบางบานไม่ใช่ใช้วิธีผลัก มันใช้วิธีดึง
แต่มีบางบาน ผลักก็แล้ว ดึงก็แล้ว ก็ไม่ออก ทำอย่างไร มันล็อคหรือเปล่า ก็ไม่ได้ล็อค เราจะเห็นคนแบบนี้เยอะ บางทีเราก็ทำ แต่เราไม่ได้เฉลียวใจว่า ถ้าเราเลื่อนประตู ประตูก็เปิด เราคิดแต่จะดึง หรือไม่ก็ผลักอย่างเดียว แต่เราไม่ลองใช้วิธีใหม่บ้างคือ ลองเลื่อนประตู โดยเฉพาะถ้าเป็นประตูกระจก
แต่บางทีเลื่อนแล้วก็เลื่อนไม่สำเร็จ แต่พอเพื่อนมาเลื่อน เปิดได้ เพราะอะไร เพราะว่าเราเลื่อนไปแต่ทางซ้าย แต่ที่จริงถ้าลองเลื่อนมาทางขวา มันก็เปิด
คนเราบางทีบ่อยครั้งเราใช้แต่วิธีการเดียว แล้วพอไม่สำเร็จ เราก็บอกว่ามันไม่ได้เรื่อง แต่ที่จริงแล้ว เราไม่ยอมเปลี่ยนวิธีการดูบ้าง พอเราเปลี่ยนวิธีการ ปัญหาก็แก้ได้ง่าย ประตูที่เคยปิดก็เปิดออก
ที่กุฏิอาตมาที่ภูหลง มีลิงเข้ามาก่อกวนเยอะ ฉะนั้น ตรงระเบียงเลยติดตาข่ายเหล็กตรงหัวมุมของระเบียงตั้งฉากกัน เพื่อไม่ให้ลิงเข้ามาที่ระเบียง ตอนนั้นคิดว่ามันป้องกันได้ แต่ที่จริงมันป้องกันไม่ได้หรอก เพราะว่าลิงฉลาดกว่าเรา
แต่พบว่า ตาข่ายเหล็กแม้จะกันลิงไม่ได้ แต่กันผีเสื้อได้ ผีเสื้อจำนวนมากจะติดอยู่ตรงนั้น แล้วผีเสื้อจะพยายามจะบินออกไปให้ได้ แต่มันไม่สามารถจะลอดผ่านตาข่ายเหล็กได้
แล้วเราก็สังเกต ทำไมมันไม่ยอมเปลี่ยนทิศบ้าง ถ้ามันลองบินไปทางซ้าย หรือบินไปทางเดิมที่มันเข้ามา มันก็จะเป็นอิสระ แต่มันจะบินไปข้างหน้าอย่างเดียว พอไปข้างหน้าก็ติดตาข่าย ติดตะแกรง มันไม่รู้จักที่จะเปลี่ยนทิศทางการบิน ถ้ามันลองเปลี่ยนไปบินทางซ้าย หรือหันกลับมา มันก็เป็นอิสระได้ เราเลยต้องจับมันอย่างเบา ๆ แล้วเอาไปปล่อย
มานึกดู คนเราก็เหมือนกัน บางทีเราคิดแต่ใช้วิธีการเดียวในการแก้ปัญหา แล้วเราก็เจอทางตัน แต่ไม่ค่อยคิดถึงวิธีการอื่น
หลายคนมีความทุกข์มาก คนรอบข้างเขาพูดไม่ดีกับเรา เขาไม่ค่อยชื่นชมยินดีกับเรา เราทุกข์มาก พยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาหันมาชื่นชมเรา ทำดีกับเรา แต่ว่าทำอย่างไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ ยังมีหลายคนที่พูดไม่ดีกับเรา บางทีก็ส่งสายตาไม่ดีกับเรา ทุกข์มาก
ที่จริงมีวิธีหนึ่งคือ ไม่สนใจ หยุดความคาดหวัง เลิกคาดหวัง ไม่สนใจเขา ไม่คาดหวังว่าเขาจะพูดดี ทำดีกับเรา มันก็หายทุกข์ แต่เพราะเราคิดแต่จะไปเปลี่ยนคนอื่น แต่ว่าไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเอง หรือไม่คิดจะจัดการที่ใจของตัว ไปคิดแต่จะไปจัดการคนอื่น
คนจำนวนมากก็คิดแบบนี้ หรือทำแบบนี้คือ คิดแต่จะไปจัดการคนอื่น หรือว่าทำให้คนอื่นเขาพูดดีกับเรา ทำดีกับเรา แต่ว่า 100 คนอาจจะทำดีกับเรา พูดดีกับเรา 99 คน ยังมีอีกคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่เขาไม่ดีกับเรา แล้วถ้าเราไปคาดหวังให้ทุกคนทำดีกับเรา พูดดีกับเรา เราจะทุกข์มาก
แต่ถ้าเราปรับใจเราเสียใหม่ ไม่คาดหวัง หรือว่าเมิน ไม่สนใจ ใครจะทำดีกับเราหรือไม่ก็ไม่เป็นไร ขอให้เราคิดแต่จะทำดีกับผู้คนทั่วไป ไม่ได้เพราะความคาดหวังว่าเขาจะต้องดีกับเราเป็นกันตอบแทน เราก็หายทุกข์
ฉะนั้น ทุกวันนี้คนเราคิดแต่จะใช้วิธีการเดียวในการแก้ปัญหา เสร็จแล้วพอไม่สำเร็จก็ทุกข์ แต่ว่าลืมไปว่ามีอีกวิธี หรือบางทีมีอีกหลายวิธีที่ยังทำได้ แต่เราไปยึดติดกับวิธีการเดียว เหมือนกับเรื่องประตู ประตูไม่เปิดสักที เพราะคิดแต่จะผลัก แต่ลืมที่จะดึงมันออกมา หรือลืมที่จะเลื่อน
เพราะฉะนั้น ลองสำรวจความคิด วิธีการของเราดู การที่เราติดกับวิธีการเดียวก็สร้างปัญหาให้กับเรา แทนที่จะเปิดประตู กลายเป็นปิดประตูใส่เรา.