แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 7 กรกฎาคม 2568
ที่เกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย มีสัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งหายากมาก เจอได้ที่เกาะบอร์เนียวเท่านั้นแหละ เป็นญาติกับมนุษย์เราคืออุรังอุตัง ตัวใหญ่แต่ว่าใจดี ก็เลยตกเป็นเหยื่อของพรานที่อยากจะได้สัตว์หายาก ตอนหลังรัฐบาลอินโดนีเซียก็เลยจัดหาป่าผืนหนึ่ง เป็นป่าสงวน ที่จริงไม่ใช่ของรัฐบาลอินโดนีเซีย เป็นของมูลนิธิอนุรักษ์อุรังอุตัง ป่าสงวนผืนหนึ่งเอาไว้ให้อุรังอุตังที่ลี้ภัยหรือหลบภัยจากมนุษย์ได้มาอยู่อาศัย
มีอุรังอุตังตัวหนึ่งอายุ 20 กว่าปีแล้ว วันหนึ่งเดินมาที่บ่อน้ำ เห็นชายคนหนึ่งอยู่ในบ่อน้ำ บ่อน้ำก็ลึกประมาณสักท้องหรือว่าเอว อุรังอุตังตัวนั้นเห็นก็คิดว่าชายคนนั้นคงจะประสบปัญหาตกน้ำ อุรังอุตังตัวนั้นก็เลยเดินไปที่ขอบสระ แล้วก็ยื่นมือ มือของอุรังอุตังยาว ยื่นมาที่ชายคนนั้น เพื่ออะไร เพื่อให้ชายคนนั้นจับ แล้วอุรังอุตังก็จะได้ดึงขึ้นมาจากสระน้ำ แต่ที่จริงชายคนนั้นลงไปที่สระน้ำเพราะมีพวกงูซึ่งอาจจะเป็นอันตรายกับอุรังอุตังได้ เขาก็ไป clear สระน้ำตรงนั้น เขาเป็นเจ้าหน้าที่ป่าสงวนที่พักพิงของอุรังอุตัง ก็บังเอิญมีคนเห็นอากัปกิริยาที่อุรังอุตังตัวนี้กำลังยื่นมือเพื่อที่จะไปช่วยชายคนนั้น ก็เลยถ่ายรูปเอาไว้ เป็นรูปที่เรียกว่าแพร่หลายไปทั่วโลกเมื่อสัก 3-4 ปีที่แล้ว
มันเป็นภาพแสดงถึงน้ำใจของอุรังอุตัง เห็นมนุษย์กำลังประสบความเดือดร้อนก็อยากจะช่วย เห็นคนตกน้ำก็อยากจะช่วยดึงออกมาจากสระน้ำ แต่อุรังอุตังตัวนั้นไม่รู้เลยว่าที่จริงคนตั้งใจลงไปเพื่อที่จะช่วยอุรังอุตังด้วยการ clear สระน้ำไม่ให้มีงูที่เป็นพิษกับอุรังอุตัง เพราะว่าศัตรูที่ทำร้ายอุรังอุตังมากชนิดหนึ่งก็คืองูพิษ ภาพนี้ก็เรียกว่าสร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากว่า ขนาดอุรังอุตังมันก็ยังมีน้ำใจ อาจจะมีคนบอกว่า อุรังอุตังตัวนี้กับผู้ชายคนนั้นรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ป่าอนุรักษ์อุรังอุตัง แต่ถึงแม้เขารู้จักกัน การที่มีน้ำใจยื่นแขนให้ชายคนนั้นก็เป็นภาพที่น่าประทับใจ แสดงถึงความมีน้ำใจ และที่จริงแล้วถึงแม้จะไม่รู้จักกันก็เป็นไปได้ว่าถ้าอุรังอุตังตัวนี้เห็นใครก็ไม่รู้จมหรือว่าอยู่ในน้ำ แม้จะไม่จมแต่ว่าก็คงจะรู้สึกว่าน่าจะช่วยเหลือให้เขาขึ้นมาจากสระ เพราะว่า ความเมตตามันมีอยู่แล้วในใจของสัตว์ โดยเฉพาะลิงที่เป็นญาติของมนุษย์
อีกชนิดหนึ่งที่เป็นญาติของมนุษย์คือ กอริลลา เมื่อ 30 ปีที่แล้วที่สวนสัตว์ที่ชิคาโกมีเด็กคนหนึ่งตกลงไปในคอกของกอริลลา สวนสัตว์เมืองนอกเขาจะไม่ขังสัตว์ไว้ในกรง เป็นที่โล่งให้สัตว์เดินเล่น รวมทั้งกอริลลาด้วย แล้วเขาก็จะทำคอกหรือว่าเป็นขอบกันไม่ให้คนตกลงไป แถมยังมีคูน้ำกั้นระหว่างที่อาศัยของกอริลลากับตัวคอก ปรากฏว่าเด็ก 3 ขวบคนหนึ่งแกซน ปีนขึ้นขอบแล้วก็พลัดตกลงไป มันก็สูงประมาณสัก 2 หรือ 3 เมตร ถ้าตกลงไปนี่เด็กก็นิ่งเลย ดีที่ไม่ตกไปในน้ำในคู ปรากฏว่ามีกอริลลาตัวหนึ่งเป็นตัวเมียมีชื่อบินติ จูว์ (Binti Jua) ตัวใหญ่มากเกือบ 100 กก. เป็นแม่ลูกอ่อน มีลูกอายุ 17 เดือนเกาะหลังอยู่ พอเห็นเด็กตกลงมารีบเดินปราดไปที่เด็กคนนั้นเลย แต่ไม่ใช่ไปทำร้าย บินติ จูว์ ช้อนเด็กคนนั้นขึ้นมาอย่างอ่อนโยน แล้วก็อุ้มกะเตง ๆ พาไปไหน พาไปประตูที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์จะเปิดเพื่อเอาอาหารมาให้ บินติ จูว์ กับพวก เขารู้ว่าถ้าเอาเด็กไปวางไว้ตรงประตูนั้นเดี๋ยวจะมีคนมารับ
ตอนที่กอริลลาบินติ จูว์ตรงไปหาเด็ก ใคร ๆ ก็กลัว สงสัยจะไปทำร้ายเด็ก เพราะเรามีภาพว่าสัตว์ป่านี่มันน่ากลัว ดุร้าย คนก็ตะโกนกันใหญ่เลย ตกใจ รวมทั้งแม่เด็กด้วย ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ร้องโวยวาย บินติ จัวกลับนิ่งสงบ เดินไปช้อนเด็ก แล้วก็เอาเด็กไปวางไว้ตรงประตู ประตูคอกที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เปิดเพื่อมาส่งอาหาร เจ้าหน้าสวนสัตว์ก็รีบมาพอได้รับข่าวแล้วก็มาเอาเด็กไป เด็กก็ปลอดภัย บังเอิญมีคนถ่ายรูปไว้ ถ่ายวีดีโอด้วย มันก็เลยเป็นภาพและวีดีโอที่ไวรัลหรือว่าแพร่กระจายไปทั่วโลก ทุกวันนี้ก็ยังหาได้ง่ายอยู่ มันก็แสดงให้เห็นว่าสัตว์นี่เขามีเมตตา ถึงแม้ว่าอุรังอุตังกับกอริลลาบินติ จูว์จะเป็นตัวเมีย แต่ก็เชื่อว่าตัวผู้ก็คงจะมีนิสัยมีความเมตตาแบบนี้เหมือนกัน
สัตว์นี่เราอย่าคิดว่าเขาคิดเอาตัวรอดอย่างเดียว อย่าคิดว่ามันเฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่มีความเมตตากรุณา สัตว์ก็มี แล้วไม่ได้เมตตากรุณาเฉพาะพวกเดียวกัน ต่างพันธุ์เขาก็มีน้ำใจ
แล้วไม่ใช่เฉพาะสัตว์ที่เป็นญาติกับมนุษย์ เช่น อุรังอุตัง หรือว่ากอริลลา เขาก็เคยเห็นนกกระสาตัวหนึ่งมันหากินอยู่ริมสระ ปรากฏว่าใกล้ ๆ นกกระสา มันมีปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่ง มันดิ้นกระแด่ว ๆ เข้าใจว่ามันกระโดดมา มันดีดตัวมาจากสระแล้วมันก็ไปเจอพื้นดินแทนที่จะเจอน้ำ มันก็ดิ้นกระแด่ว ๆ ปรากฏว่านกกระสาตัวนี้พอเห็น มันเดินตรงไปที่ปลาตัวนี้เลย แล้วก็เอาปากคาบแต่ไม่ใช่กลืนลงคอ มันคาบเพื่อเอาไปปล่อย เอาไปหย่อนลงในสระน้ำ ก็ประหลาดดีเพราะว่ากระสาปกติมันก็กินปลา แต่ว่าตัวนี้ทั้งที่เป็นปลาตัวใหญ่แต่ไม่กิน เอาไปปล่อย คงรู้ว่าปลาตัวนี้กำลังเดือดร้อน
ขนาดสัตว์ซึ่งต่างพันธุ์ก็ยังมีน้ำใจ นับประสาอะไรกับมนุษย์ แต่ มนุษย์เราบางทีเราก็มีความคิดปรุงแต่งต่อเติมมาเยอะ ความมีน้ำใจของเรา แทนที่มันจะเพิ่มพูนขึ้น มันกลับถดถอย พอเห็นคนที่แตกต่างจากเรา เช่น ต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างภาษา เป็นเขมรบ้าง และเป็นพม่าบ้างล่ะ เป็นโรฮิงญาบ้างล่ะ เป็นชาวเขาบ้างล่ะ ก็ไม่ค่อยมีน้ำใจเท่าไหร่ หรือบางทีเห็นว่าเป็นเหลือง เป็นแดง เป็นส้ม เป็นน้ำเงิน เป็นคนละพวกกับเรา ก็เลยไม่มีเมตตา แช่งชักหักกระดูก อันนี้เพราะมนุษย์เราปรุงแต่ง ความคิดปรุงแต่งของเรามันเกิดจากสมอง มันสามารถปรุงแต่งให้เรามีเมตตากับคนที่แตกต่างกันได้ แต่ว่าถ้าเราไม่รู้ทันการปรุงแต่ง มันก็ทำให้เกิดการแบ่งเป็นพวก เป็นกลุ่ม ตามสี ตามเชื้อชาติ
แต่สัตว์ไม่มีความคิดปรุงแต่ง พอเห็นสัตว์ด้วยกันแม้จะต่างเผ่าต่างพันธุ์เดือดร้อน ก็ช่วย จะเป็นคนหรือจะเป็นปลาก็ตาม เรื่องราวแบบนี้มีเยอะ สัตว์ที่ช่วยมนุษย์ ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่ช่วยสัตว์ จะเป็นปลาวาฬจะเป็นเต่าช่วยคนที่ตกน้ำอยู่ในทะเลกว้างก็มีเยอะ แต่มนุษย์เราบางทีเราคิดว่ามีแต่คนเท่านั้นแหละที่มีเมตตา แต่ถ้าเรารู้ความจริงก็จะพบว่าจริง ๆ แล้วสัตว์ก็มี และอาจจะมีมากกว่าคนด้วยซ้ำในบางกรณี.