PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • ทำบุญอย่าส่งเสริมบาป
ทำบุญอย่าส่งเสริมบาป รูปภาพ 1
  • Title
    ทำบุญอย่าส่งเสริมบาป
  • เสียง
  • 14032 ทำบุญอย่าส่งเสริมบาป /aj-visalo/2025-08-13-06-41-05.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันพุธ, 13 สิงหาคม 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 2 สิงหาคม 2568
    เคยมีการสอบถามความเห็นคนไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ สิ่งที่เขาค้นพบก็คือว่า 21% มีความเชื่อว่า ถ้าทำบาป เช่น ทุจริตคอรัปชั่น สามารถลบล้างกรรมได้ด้วยการทำบุญทำกุศล ซึ่งส่วนใหญ่ก็คงจะหมายถึงการบริจาคเงินหรือถวายเงินให้พระ ในขณะเดียวกัน 99% มีความเชื่อว่าการตัดกรรมมีจริง เป็นไปได้
    ตัวเลขนี้ทำเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ก็ไม่รู้ว่ามาถึงวันนี้ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ถ้าเพิ่มขึ้นก็น่าเป็นห่วง เพราะเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ส่งเสริมให้คนทำชั่วทุจริต แล้วก็คิดว่าเดี๋ยวก็ไปทำบุญที่วัดโน้นวัดนี้ เป็นการลบล้างกรรมชั่ว
    กลายเป็นว่า ความเชื่อเรื่องการทำบุญกลับกลายเป็นการส่งเสริมให้คนทำชั่วทำบาปมากขึ้น ที่จริงมันไม่ใช่ถ้าทำกรรมชั่ว ผลของกรรมชั่วที่เรียกว่าวิบาก ย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็เป็นไปได้ว่าผลนั้นจะทุเลาเบาบางลง เพราะการทำความดี หรือการทำบุญกุศล
    แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น หรือลดน้อยถอยลง ไม่ใช่ในความหมายนั้น ยกตัวอย่างเช่น ทำชั่วเมื่อหลายปีก่อน แล้วปรากฏว่าปัจจุบันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ก็มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน มีพลเมืองดีมาช่วย
    การทำชั่วหรือทำบาปนั้นสามารถเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่ใช่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นเพราะทำบุญทำกุศล มันเกิดขึ้นแน่นอน แต่เนื่องจากเคยทำบุญทำกุศลจึงมีคนมาช่วยพาส่งโรงพยาบาลได้ทัน
    หรือเจ็บป่วยด้วยโรคร้าย เป็นมะเร็ง เพราะเคยทำกรรมไม่ดีเอาไว้มาก่อน แต่ว่าเจอหมอดีมาช่วยให้โรคนี้บรรเทาลง แต่ไม่ใช่ว่าทำชั่วแล้วตอนหลังไปทำบุญทำกุศลก็จะไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่เจออุบัติเหตุ ไม่ใช่ อุบัติเหตุก็ยังเกิดอยู่ บาดเจ็บหนัก ความป่วยด้วยโรคร้ายก็ยังเกิดขึ้นอยู่ แต่บรรเทาลงได้เพราะการทำบุญทำกุศล ไม่ใช่ว่าไม่เกิดขึ้นเลย
    พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่ประสบอุบัติเหตุ หรือคนที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายนั้นเป็นเพราะทำกรรมไม่ดีในอดีต อันนั้นยังไม่อยากจะฟันธง
    แต่ที่พูดได้แน่นอนก็คือว่า ถ้าทำชั่วแล้วย่อมเกิดวิบาก คือผลตามมา ไม่สามารถจะลดทอนลงได้ อุบัติเหตุก็ยังเกิดขึ้น ความเจ็บป่วยก็ยังเกิดขึ้น แต่มีคนมาช่วยเอาไว้ แบบนี้ก็เป็นไปได้ เพราะเป็นผลของการทำบุญทำกุศล
    เช่นเดียวกัน ตัดกรรมในความหมายที่ว่า ทำความชั่วแล้วทำบุญทำกุศลเพื่อจะลบล้างกรรมให้เป็นศูนย์ แบบนี้ไม่มีในพุทธศาสนา ตัดกรรมนั้นเป็นไปได้ถ้าหากว่าสามารถจะทำให้ผลของกรรมชั่วมันหายไป
    ยกตัวอย่างเช่น ไปฆ่าคน แล้วถ้าทำให้คนเขาฟื้นขึ้นมาได้ ถ้าทำเช่นนั้นได้ ตัดกรรมก็เป็นไปได้ หรือไปเผาบ้านเขาจนไหม้ จนสูญ กลายเป็นเถ้าถ่าน แล้วก็ทำให้บ้านนั้นคืนกลับมาใหม่ ถ้าเราทำอย่างนั้นได้ การตัดกรรมก็จะเป็นไปได้
    แต่ถ้าทำให้คนตายแล้วฟื้นขึ้นมาไม่ได้ เผาบ้านเขาแล้วทำให้บ้านนั้นกลับคืนมาไม่ได้ ตัดกรรมก็เป็นไปไม่ได้ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเผาบ้านเขาแล้วมาช่วยสร้างช่วยซ่อมให้เกิดบ้านหลังใหม่ขึ้นมา ก็เป็นเรื่องที่ทำได้
    เมื่อเราทำผิดแล้วจะทำให้มันหายไปก็เป็นไปไม่ได้ แต่ว่าเราสามารถที่จะทำให้มันเบาบางลงได้ เช่น ตั้งใจว่าจะไม่ทำอีก สิ่งที่ทำเอาไว้ให้เป็นอดีตไป ภายภาคหน้าไม่ทำอีก แล้วก็พยายามทำสิ่งตรงข้าม เคยไปเผาบ้านเขาก็ไปช่วยสร้างบ้านนั้นขึ้นมาใหม่
    หรือว่าถ้าเกิดว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ ก็ไปช่วยสงเคราะห์คนที่เขาไร้บ้านให้เขามีบ้าน อย่างนี้ก็เรียกว่าช่วยบรรเทาเบาบางหรือช่วยทำให้มีผลดีเกิดขึ้นกับตัว ก็จะช่วยบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น แต่ผลร้ายเกิดขึ้นแน่ ส่วนการบรรเทาเกิดขึ้นตามมาทีหลัง
    แล้วตอนนี้ก็ยังมีความเชื่อเหมือนเดิมว่า คนไทยเรานิยมทำบุญด้วยการถวายสังฆทาน เรื่องนี้ก็เป็นความเชื่อที่ฝังรากลึก เป็นการทำบุญทำกุศลอย่างหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยม แต่เหตุผลในการทำสังฆทานนั้นก็เปลี่ยนไป หรือมีความหลากหลายมากขึ้น
    แต่ก่อนคนถวายสังฆทานหวังจะได้โชค ได้ลาภ หายเจ็บ หายป่วย มีเงิน มีทอง ทำมาค้าขึ้น ตอนหลังก็เริ่มมีการทำบุญถวายสังฆทานเพื่อสะเดาะเคราะห์ และที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือเพื่อแก้บน ไปบนอะไรไว้แล้วแก้บนด้วยการถวายสังฆทาน แต่ก็มีอะไรแปลก ๆ ในวิธีแก้บนของคนไทย
    เมื่อ 10 ปีที่แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวดี หน้าตาดี มาถวายของเป็นเครื่องสังฆทานให้กับหลวงพ่อ แล้วก็มีตะกร้าที่มีหนังสือ 4 สี ทีแรกหลวงพ่อท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร รับเอาไว้
    ตอนหลังโยมบอกว่า หลวงพ่อหยิบหนังสือมาเปิดอ่านหน่อย พอท่านเปิดอ่าน ปรากฏว่าเป็นหนังสือปลุกใจเสือป่า ภาพโป๊ 4 สีทั้งเล่มเลย หลวงพ่อท่านก็ไม่ดู โยมคะยั้นคะยอว่าให้ดูหน่อย หลวงพ่อก็เลยถามว่า ทำไม
    แกบอกว่าเมื่อเดือนที่แล้วเงินหาย ก็เลยไปบนบานกับศาลพระพรหมว่า ถ้าได้เงินคืนจะมารำแก้บน ไม่ได้มารำเปล่า ๆ รำเปลื้องผ้าด้วยที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ปรากฏว่าได้เงินคืน พอได้เงินคืนก็เปลี่ยนใจ ไม่กล้าไปรำแก้บนเปลื้องผ้าถวายศาลพระพรหม
    คนเราก็เป็นอย่างนี้ ตอนที่ขอ อยากได้อะไร พร้อมที่จะทำโน่นทำนี่ ขอให้ได้มาเถอะ แต่พอได้มาแล้วเปลี่ยนใจ รายนี้ก็เหมือนกัน ทีแรกตอนที่อยากได้เงินก็ขอให้ได้เงินเถอะพร้อมที่จะทำทุกอย่างแม้แต่การรำเปลื้องผ้าแก้บน ต่อหน้าศาลพระพรหม
    แต่ตอนนี้ไม่กล้าแล้ว ก็เลยใช้วิธีเลี่ยง คือเอาหนังสือโป๊มาถวายหลวงพ่อ เพื่อให้หลวงพ่อส่งไปให้ศาลพระพรหมหรือให้พระพรหมได้ดูแทน กลายเป็นว่าพระหรือหลวงพ่อกลายเป็นบุรุษไปรษณีย์ไปแล้ว แบบนี้ก็มี เป็นความเชื่อที่ประหลาดมาก
    แต่ที่เกิดขึ้นบ่อยก็อย่างเช่น หายป่วยแล้วจะแก้บนด้วยการให้ลูกหรือให้ตัวเองไปปฎิบัติธรรม หายป่วยแล้วจะขอไปปฏิบัติธรรมที่วัด 1 อาทิตย์ ปรากฏว่าหายป่วยแล้วไม่อยากไปปฏิบัติธรรม 1 อาทิตย์แล้ว ทีแรกก็ต่อรองเอาแค่ 3 วันก็พอ ทีหลังก็ยังไม่เอาอีก ขอ 1 วันก็แล้วกัน
    ปรากฏว่าใจไม่ถึง มีกิเลส ก็บ่ายเบี่ยงหลบเลี่ยงไปเรื่อย กลายเป็นว่าจ้างคนไปปฎิบัติธรรมแทน แต่หาคนรับจ้างไม่ได้ ก็เลยคิดว่าจะถวายเงินให้กับวัด ให้กับหลวงพ่อ เพื่อเอาไปส่งเสริมการปฎิบัติธรรม ก็เลยทำบุญถวายสังฆทาน แบบนี้ก็มี คือใช้การทำบุญเป็นวิธีการแก้บน
    ซึ่งจะว่าไปการทำบุญเพื่อส่งเสริมการปฎิบัติธรรมก็ดี แต่ว่าในเมื่อตัวเองรับปากแล้วว่าถ้าหายป่วยก็จะไปปฏิบัติธรรมก็ควรจะทำเช่นนั้นตามที่รับปากเอาไว้ เรียกว่ามีวาจาสัตย์ แต่เดี๋ยวนี้ก็ใช้การทำบุญแบบนี้เป็นวิธีบ่ายเบี่ยงหลบเลี่ยง อย่างนี้ก็ต้องระวัง
    เพราะการทำบุญเป็นของดี แต่ถ้าเอามาใช้เพื่อเป็นเครื่องส่งเสริมกิเลส หรือเพื่อตอบสนองกิเลสส่วนตัว หรือความปรารถนาส่วนตัว หรือเพื่อให้ได้อะไรต่างๆมากมาย แล้วก็บ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงไม่ทำตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ อย่างนี้ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องดีเท่าใด.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service