PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • คุณปู่กอบกู้หมู่บ้านด้วยฝีแปรง
คุณปู่กอบกู้หมู่บ้านด้วยฝีแปรง รูปภาพ 1
  • Title
    คุณปู่กอบกู้หมู่บ้านด้วยฝีแปรง
  • เสียง
  • 14079 คุณปู่กอบกู้หมู่บ้านด้วยฝีแปรง /aj-visalo/2025-09-15-08-03-01.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 15 กันยายน 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 1 กันยายน 2568
    ที่ประเทศไต้หวัน มีคุณปู่คนหนึ่งชื่อ หวง อายุเกือบร้อยแล้ว 96 ปี อยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งชื่อ ไถจง เป็นหมู่บ้านในชนบท และคงมีผู้คนอาศัยอยู่สืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
    แต่ตอนหลังทางการคงเห็นว่าทรุดโทรม และอาจจะไม่ค่อยมีคนหนุ่มสาวอยู่ในหมู่บ้าน เพราะว่าเช่นเดียวกับหมู่บ้านในชนบท หนุ่มสาวอพยพเข้าไปทำงานในเมือง เหลือแต่คนแก่กับเด็ก ทางการเลยจะพัฒนา คือรื้อทั้งหมู่บ้าน และมีการใช้ที่ดินให้เป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจมากขึ้น
    มีการเวนคืน จะพูดอย่างนั้นก็ได้ และมีชาวบ้านส่วนใหญ่ยอมอพยพไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ที่ทางการสร้างให้ในอีกเมืองหนึ่ง
    อันนี้เป็นโครงการที่เกิดขึ้นทั่วทุกหนทุกแห่ง จะอพยพ รื้อถอนหมู่บ้าน อาจจะสร้างศูนย์การค้า หรืออะไรก็แล้วแต่ มีชาวบ้านทั้งหมู่บ้านยอมไปจากหมู่บ้าน ไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ แม้จะไม่คุ้นเคย แต่ว่าคงมีอนาคตดีกว่าอยู่หมู่บ้านที่ห่างไกลและไม่ค่อยเจริญเท่าไร
    ยกเว้นปู่หวงเขาไม่ยอมไป เพราะเขาอยู่ที่นั่นมา 40 ปีแล้ว ถึงแม้ไม่ใช่บ้านเกิด แต่เรียกว่าฝังรกราก ผูกพันกับหมู่บ้านนี้มาก เขาไม่ยอมไปแม้ว่าจะได้ค่าตอบแทนสูงเพียงใดเขาก็ไม่ไป คนเดียวที่ยืนหยัด ทางการคงคิดว่า ปล่อยไป เดี๋ยวไม่นานเขาก็ตาย แต่ว่าเขาไม่ใช่คนที่จะตายง่าย ๆ
    ระหว่างที่เขาอยู่ที่หมู่บ้านไถจงคนเดียว เขาใช้เวลาที่ว่างวาดรูป ใช้กำแพงของบ้านต่าง ๆ ในหมู่บ้านเป็นเสมือนกับผืนผ้าใบ วาดรูปวันละนิดวันละหน่อย จะเรียกว่าเป็นการฆ่าเวลาก็ได้ หรือแก้เหงาก็ได้
    เขาเป็นคนที่มีหัวศิลปะ และภาพที่เขาวาดเป็นภาพที่สีสันสดใส ไม่ใช่วาดแบบคนโบราณ วาดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเต็มทั้งหมู่บ้าน และเขาสบายใจมาก เพราะว่าไม่มีใครบ่น เนื่องจากอดีตเจ้าของบ้านย้ายไปหมดแล้ว เขาเลยวาดภาพ
    ปรากฏว่ามีคนมาเห็น มีหนุ่มสาวมาเห็นก็ประทับใจ เพราะภาพวาดของปู่หวงทันสมัยมาก สีสันสดใส และที่แปลกคือมีภาพวาดทั้งหมู่บ้าน เลยมีการถ่ายรูปโพสต์ขึ้น Facebook คนเลยแห่กันมา และว่ากันว่าปากต่อปาก มาเพื่อจะถ่ายรูป เขาเรียกว่า เช็คอิน หรือ เซลฟี่ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
    สุดท้าย พอหมู่บ้านนี้มีชื่อเสียงเข้า ทางการก็เปลี่ยนใจ บอกว่า อนุรักษ์หมู่บ้านนี้ไว้ดีกว่า แทนที่จะพัฒนาให้มีโครงการสมัยใหม่ มีศูนย์การค้า หรือว่ามีตึกสูง ๆ อนุรักษ์ไว้ดีกว่า เลยกำหนดให้เป็นแหล่งอนุรักษ์ที่ต้องสงวนเอาไว้ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของคนหนุ่มสาวชาวไต้หวัน ตอนหลัง ถึงไม่หนุ่มไม่สาวก็ไปเที่ยว เพราะแปลก และไปแล้วให้ความรู้สึกที่ดี
    กลายเป็นว่าหมู่บ้านนี้รอดพ้นจากการพัฒนา ปู่เขาก็อยู่ที่หมู่บ้านนี้จนเสียชีวิต เพราะฉะนั้น เป็นกรณีที่น่าทึ่งและน่าสนใจมาก เป็นเรื่องของคนที่รัก แม้จะไม่ใช่บ้านเกิด แต่เป็นบ้านที่ตัวเองอยู่มานาน
    คนสมัยนี้จะหาคนที่รักบ้าน หรือรักบ้านเกิด แผ่นดินเกิด หรือบ้านที่ตัวเองผูกพัน มีน้อย แต่ว่าคนสมัยก่อนเขามีความรัก ความผูกพันกับบ้านเกิด หรือถึงแม้ไม่ใช่บ้านเกิด แต่เป็นบ้านที่ตัวเองอยู่มานาน แม้ว่าจะไม่สะดวกสบายเท่ากับอพาร์ทเม้นท์ หรือว่าบ้านจัดสรรในเมืองใหญ่ ๆ ก็ไม่ยอมไป
    และไม่ใช่ง่าย คนที่อยู่คนเดียวในหมู่บ้าน แต่ก่อนมีชาวบ้าน มีเพื่อนบ้านเป็นร้อย ตอนนี้อยู่คนเดียว คนแก่ก็ต้องเหงา แต่เขาไม่ยอมปล่อยใจให้เหงาง่าย ๆ อาศัยการวาดภาพเป็นเครื่องแก้เหงา แม้จะไม่ใช่ศิลปินอาชีพ แต่ทำให้เขามีชีวิตชีวามาก เป็นคนที่รู้จักสยบความเหงาด้วยการใช้ศิลปะ อันนี้เรียกว่าเป็นความสุขจากการได้ทำ ความสุขจากการสร้างสรรค์
    ส่วนใหญ่เรานึกถึงความสุขจากการเสพ มีความสุขจากการกิน ดื่ม เที่ยว เล่น ถ้าไม่ได้กิน ไม่ได้ดื่ม ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้เล่นเพราะแก่แล้ว ก็เหงา
    แต่ว่าคุณปู่หวงเขาพบความสุขจากการวาดรูป แม้จะไม่ใช่ศิลปินอาชีพ แต่ว่าการวาดด้วยใจทำให้เขามีชีวิตชีวา อยู่คนเดียวก็อยู่ได้ ลูกหลานไม่อยู่แล้ว แต่ฉันยังมีความสุข เพราะพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมา ฉันรู้ว่าฉันจะวาดภาพอะไรต่อที่ไหน วางแผนไว้ในใจแล้วว่าจะวาดภาพอะไร
    และที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือว่า ที่เขาวาด เขาวาดด้วยความตั้งใจ และเขาไม่รู้ว่าภาพที่วาดจะถูกทุบทิ้งเมื่อไร เพราะว่าทางการเขาตั้งใจจะรื้อถอนหมู่บ้านนี้ทั้งหมู่บ้านเพื่อพัฒนา
    ธรรมดาคนเราเวลาวาดภาพอะไรเราก็หวงแหน และยิ่งถ้าเรารู้ว่าภาพที่วาดจะถูกทุบทิ้ง เราคงไม่อยากจะทำ แต่เขาไม่สนใจ เขาวาดไปเรื่อย ๆ และวาดตั้งใจด้วย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า หรือเชื่อว่า ผลงานของเขาจะถูกทุบทิ้ง จะกลายเป็นอดีตไปในเวลาไม่นาน แต่เขาก็ไม่สนใจ เขาก็ทำไป ๆ เป็นเรื่องที่ เป็นแบบอย่างที่น่าเอาแบบอย่างมาก น่าเรียนรู้มาก
    เพราะสมมุติเราปลูกป่า ถ้าเกิดเราคิดว่าป่าที่เราปลูกจะถูกไฟไหม้ บางคนก็ท้อ แต่คนที่รักธรรมชาติจริง ๆ เขาไม่ท้อ แม้รู้ว่าปีหน้า พอหน้าแล้ง ไฟจะไหม้ หรือไฟจะเข้ามา ฉันก็ยังปลูกต่อไป เพราะความสุขอยู่ที่การได้ทำ ไม่ใช่อยู่ที่การได้เห็นผล
    อันนี้เป็นเรื่องที่คนเรา ถ้าหากว่าพบความสุขจากการทำ โดยไม่ยึดติดในผล เราจะมีความสุขได้ง่าย และเผลอ ๆ สิ่งที่เราทำกลายเป็นสิ่งที่ก่อคุณูปการมาก อย่างคุณปู่ เขาวาดไป เขาไม่คิดว่าหมู่บ้านไถจงต่อมาจะกลายเป็นหมู่บ้านที่ต้องอนุรักษ์ไว้ เพราะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
    อันนี้เป็นเรื่องของคนคนหนึ่งที่สามารถจะยืนหยัด จนกระทั่งการพัฒนาให้เป็นสมัยใหม่ต้องหยุดชะงัก คนคนเดียวสามารถที่จะสร้างผลกระทบที่กว้างขวางอย่างที่คาดไม่ถึงได้ อันนี้เพราะว่าใจรัก ใจรักศิลปะ
    และอันหนึ่งก็เป็นอิทธิพลของโซเชียลมีเดียด้วย เพราะถ้าคนไม่รู้จักหมู่บ้านนี้ ทางการคงจะรื้อถอนไปนานแล้ว แต่ตอนนี้กลายเป็นหมู่บ้านที่มีนักท่องเที่ยวไปเยอะ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ
    ถ้าเมืองไทยมีแบบนี้บ้าง ของเก่า ๆ จะยังได้รับการรักษา แต่เดี๋ยวนี้ของเก่าบ้านเราถูกทำลายไปหมดเพราะคนไม่รัก อันนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service