PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • สุขเพราะให้ดีกว่าสนุกที่ได้แกล้ง
สุขเพราะให้ดีกว่าสนุกที่ได้แกล้ง รูปภาพ 1
  • Title
    สุขเพราะให้ดีกว่าสนุกที่ได้แกล้ง
  • เสียง
  • 14083 สุขเพราะให้ดีกว่าสนุกที่ได้แกล้ง /aj-visalo/2025-09-15-08-11-22.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 15 กันยายน 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 3 กันยายน 2568
    วัยรุ่นคนหนึ่งเดินมากับอาจารย์ มีช่วงหนึ่งเดินผ่านสวนสาธารณะ ปรากฏว่าเห็นรองเท้าคู่เก่าคู่หนึ่งวางอยู่ริมทาง สองคนนี้เลยคิดว่าสงสัยคงจะเป็นรองเท้าของคนสวน อาจจะวางตากแดดเอาไว้ หรือไม่ก็ลืม
    แต่แทนที่จะเดินผ่าน วัยรุ่นกลับบอกอาจารย์ว่า เราลองแกล้งเจ้าของรองเท้าคู่นี้ดีไหม เอารองเท้าเขาไปซ่อน แล้วดูว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร
    อาจารย์บอกว่า เราไม่ควรจะมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น พ่อแม่เธอก็มีฐานะ น่าจะสร้างความสุขให้กับเจ้าของรองเท้าคู่นี้ด้วยการเอาเงินไปใส่ไว้ในรองเท้า แล้วดูว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
    วัยรุ่นก็อยากจะลองดูเหมือนกัน เอาเงินใส่ไว้ในรองเท้า แล้วสองคนนี้ก็ไปหลบซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากรองเท้า
    สักพักมีชายชราคนหนึ่ง เสื้อผ้าไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร ขาดวิ่น ปุปะ เห็นรองเท้าก็ตรงไปที่รองเท้า และสวมใส่รองเท้านั้น แต่พอสวมใส่รองเท้าเข้าไปก็แปลกใจ เขาพบว่ามีเงินอยู่ในรองเท้า เขาแปลกใจมากว่าเงินไปอยู่ในรองเท้าได้อย่างไร
    มองไปรอบ ๆ เสร็จแล้วก็ร้องไห้ แล้วเขาพูดขึ้นมาว่า ขอบคุณเทวดาฟ้าดิน ที่รู้ว่าเมียของข้ากำลังเจ็บป่วย ขอบคุณเทวดาที่รู้ว่าลูกของข้ากำลังร้องไห้เพราะความหิวโหย ขอบคุณเทวดาฟ้าดินที่ได้ช่วยเหลือครอบครัวของข้าให้พ้นจากความทุกข์ยาก
    วัยรุ่นคนนั้นเห็นปฏิกิริยาของเจ้าของรองเท้าแล้วเกิดความซาบซึ้งมาก อาจารย์ก็ถามวัยรุ่นว่า ตอนนี้ความรู้สึกของเธอเป็นอย่างไร หัวใจรู้สึกพองโตไหม รู้สึกมีความสุขอิ่มเอิบไหม มันต่างจากการที่เธอไปแกล้งเขา ความรู้สึกแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเธอเลยถ้าเธอทำตามความพอใจ หรือทำตามใจตัวเองตั้งแต่แรก
    ลูกศิษย์คนนั้นบอกอาจารย์ว่า จริงครับ มันเป็นบทเรียนที่สำคัญเลยครับ ผมเพิ่งรู้ว่าการให้ผู้อื่นทำให้เรามีความสุข ความสุขที่เกิดจากการให้ดีกว่าความสนุกจากการแกล้งมากมายเลย
    วัยรุ่นคิดแต่เรื่องความสนุกเพราะได้แกล้งคนอื่น แต่ไม่เคยรู้ว่ามีสิ่งที่ดีกว่า มันคือความสุขที่เกิดจากการให้ อันนี้คือสิ่งที่เด็ก ๆ และวัยรุ่น ที่จริงหมายถึงผู้ใหญ่ด้วย ควรจะรู้ไว้ เพราะว่าเด็ก ๆ หรือวัยรุ่นบางทีคะนอง ชอบแกล้งคน หาโอกาสแกล้งเมื่อมีโอกาส และเด็กรู้สึกว่ามีความสุขถ้าได้แกล้งคน
    แต่อย่างที่อาจารย์บอกว่า เราไม่ควรจะมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น ไม่ใช่เพราะว่าความทุกข์บีบคั้นจิตใจของผู้อื่นเท่านั้น แต่เพราะมันทำให้เราไม่มีโอกาสที่จะได้รับความสุขที่ประเสริฐ ความสุขจากการให้
    ฉะนั้น ถ้าเด็ก ๆ วัยรุ่นเขารู้จักว่า ความสุขจากการให้ประเสริฐกว่าความสนุกจากการแกล้ง รวมทั้งประเสริฐกว่าความสะใจจากการที่ได้ต่อว่าด่าทอ เวลาเราเห็นใครที่ทำอะไรไม่เข้าท่า หรือทำอะไรที่เชย ๆ เปิ่น ๆ เราก็อยากกระแนะกระแหน หรือบางทีไม่ชอบใคร เราก็นินทา เพราะการนินทาทำให้เรามีความสุข
    แต่จริง ๆ แล้วมีความสุขที่ประเสริฐกว่านั้น ความสุขจากการให้ อาจจะไม่ใช่ให้ของ ไม่ใช่ให้เงิน แต่ว่าให้อภัย
    อันนี้เป็นสิ่งที่คน โดยเฉพาะเด็ก ๆ ควรจะรู้จัก มันเป็นวิชาชีวิตที่สำคัญอย่างหนึ่ง วิชาชีวิตเขาไม่ค่อยสอนในโรงเรียน เพราะโรงเรียนเขาสอนแต่วิชาการ วิชาชีพ แต่วิชาชีวิต ถ้าได้ครูดี เขาจะสอนนักเรียนให้รู้จักความสุขที่ประเสริฐ
    ไม่ใช่ความสุขจากการให้อย่างเดียว ยังรวมไปถึงความสนุกจากการที่ได้เรียนรู้ พอเราได้เรียนรู้อะไรแล้วเกิดมีความสุขจะเกิดใจใฝ่รู้ ใจใฝ่รู้จะทำให้เกิดความใฝ่ธรรม ใฝ่ศึกษาค้นคว้า มีการบ้านก็อยากทำการบ้าน ไม่อยากโกง จะสอบก็ขยันดูหนังสือ ไม่ใช่รอทางลัด ไม่ใช่บนบานศาลกล่าว ความใฝ่ธรรมก็ทำให้เกิดความสุข โดยเฉพาะถ้ามาจากความใฝ่รู้
    อันนี้เป็นสิ่งที่เด็กควรจะรู้จัก ผู้ใหญ่ด้วยเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวนี้ผู้ใหญ่ความใฝ่รู้ ใฝ่ธรรมไม่ค่อยมีแล้ว มีแต่ความใฝเสพ ใฝ่เสพ คือ อยากกิน ดื่ม เที่ยว เล่น ช้อป และคิดว่านี่แหละคือความสุขของเรา เพราะฉะนั้น ต้องมีเงิน เพราะถ้าไม่มีเงินก็ไม่มีโอกาสที่จะกิน ดื่ม เที่ยว เล่น ช้อป
    และถ้าหากว่าอยากได้เงินและขยันทำงานก็ยังดี อย่างน้อยก็ได้ความสุขจากการทำงาน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยพบความสุขจากการทำงานแล้ว ทำงานเพราะอยากได้เงิน
    และถ้าเกิดว่าทำงานแล้วได้เงินน้อย ได้เงินช้า ก็ต้องทุจริต คอรัปชั่น หรือไม่ก็เล่นการพนัน ซื้อหวย เพราะเป็นทางลัด เพราะเดี๋ยวนี้เราใฝ่เสพ เราไม่อยากทำ ถ้าอยากรวย ทำอย่างไรถึงจะรวยโดยที่ไม่ต้องเหนื่อย โดยที่ไม่ต้องทำ ก็เสี่ยงโชค เสี่ยงการพนัน เล่นหวย เล่นการพนัน หรือหนักกว่านั้นคือ คอรัปชั่น ทุจริต
    อันนี้เพราะว่าไม่รู้จักความสุขจากการได้ทำ ความสุขจากการใฝ่รู้ หรือความสุขเพราะได้ช่วยผู้อื่น ถ้ารู้จักความสุขแบบนี้ เริ่มจากความสุขที่ได้ช่วยผู้อื่นมี ความสุขที่เกิดจากการให้จะพาเราไปสู่วิถีทางที่ถูกต้อง ทำงานก็ทำงานอย่างมีความสุข ขยันหมั่นเพียร ไม่ใช่รอวันสิ้นเดือน วันเงินเดือนออก ไม่ใช่วันรอวันเสาร์อาทิตย์ เพราะจะได้ไม่ต้องทำงาน จะได้ไปกิน ดื่ม เที่ยว เล่น
    เดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่รอวันเสาร์วันอาทิตย์ รอวันเงินเดือนออก ซึ่งมีแค่ 1 วันใน 1 เดือน ส่วน 29 วันที่เหลือ หรือว่า 24 วันที่เหลือ ทุกข์ เบื่อ เซ็ง นี่เพราะไม่รู้จักความสุขจากการทำ และยิ่งไม่รู้จักความสุขจากการให้ก็ยิ่งเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น กลั่นแกล้ง และมีความสนุกที่ได้แกล้งคน หารู้ไม่ว่ามีความสุขที่ประเสริฐกว่านั้น ความสุขจากการให้
    เพราะฉะนั้น เราต้องมารู้จักความสุขแบบนี้มาก ๆ อันนี้คือประโยชน์จากการที่เราได้รู้จักธรรมะ ไม่ใช่แค่มาทำบุญ และมีความสุขความสงบชั่วครั้งชั่วคราว เสร็จแล้วก็ทุกข์ใหม่.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service