พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 8 กันยายน 2568
เมื่อ 37 ปีที่แล้วมีการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ถือว่าเป็นเรื่องที่เชิดหน้าชูตาของเกาหลีมาก เพราะว่าเจ้าพ่อโอลิมปิกใครจะเป็นได้ไม่ใช่ง่าย ต้องมีความพร้อมมากมาย พูดง่าย ๆ ก็คือต้องเป็นประเทศที่เจริญพัฒนาแล้ว
เกาหลีใต้ก่อนหน้านั้น ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ยากจน ยากจนกว่าไทยด้วย เพราะเขาเจอสงคราม สงครามเกาหลี แต่เขาฟื้นตัวเร็วมากจนกระทั่งเจริญ ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งก่อนหน้านั้นจัดแต่ในประเทศยุโรปกับอเมริกา
จัดที่เอเชียครั้งแรกก็ญี่ปุ่นเมื่อ 24 ปีก่อนหน้านั้น ญี่ปุ่นผงาดขึ้นมาได้ก็ด้วยการแสดงตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก เพราะฉะนั้นการที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจมาก
ในระหว่างการจัดแข่งขันมีการชกมวย ชกมวยเป็นสิ่งที่เกาหลีใต้หมายปองจะได้เป็นแชมป์ มีการแข่งขันที่เรียกว่าชกมวยรุ่นไลท์มิดเดิลเวท Light middleweight ซึ่งรุ่นไลท์มิดเดิลเวท สำหรับเอเชียโดยเฉพาะเลย
ปรากฏว่าคู่ชิงชนะเลิศคือ เกาหลีใต้กับอเมริกา นักชกเกาหลีใต้ก็คือ ปาร์ค ซีฮุน (Park Si-Hun) ส่วนนักชกอเมริกันคือ รอย โจนส์ จูเนียร์ (Roy Jones Jr.) ซึ่งกำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอายุ 21 ปี ส่วนปาร์ค 24 ปี คนก็จับตาดูว่าการแข่งขันครั้งนี้ว่าใครจะเป็นแชมป์ เกาหลีใต้ปรารถนามากที่จะได้เป็นแชมป์ ได้เหรียญทองโอลิมปิก
ปรากฏว่า การแข่งขันมี 3 ยก โจนส์สามารถจะต่อยถูกปาร์คถึง 86 หมัด ก็เรียกว่าเยอะมากทีเดียว ปาร์คชกถูกตัวโจนส์น้อยกว่า เห็นได้ชัดเลยว่าโจนส์ชนะแน่
แต่พอกรรมการประกาศผล ปรากฏว่าปาร์คได้เป็นแชมป์ ได้เหรียญทองโอลิมปิก ส่วนโจนส์ได้ที่ 2 คือเหรียญเงิน ค้านสายตาประชาชนมาก แต่คนเกาหลีใต้ภูมิใจมาก ดีใจมากว่าที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกอีกเหรียญหนึ่งสมกับเป็นเจ้าภาพ
ปาร์คทีแรกก็ดีใจที่นำชื่อเสียงและเกียรติภูมิมาให้กับประเทศชาติ แต่ภายหลังไม่นานเขากลับเศร้าเสียใจเพราะว่าถูกคนรุมประณามทั่วโลกเลย คนที่เขาดูการแข่งขันชกมวยนัดนั้นเห็นชัด ๆ เลยว่า โจนส์สมควรเป็นแชมป์ แต่ว่าตำแหน่งนี้กลับเป็นของปาร์คซึ่งเป็นนักกีฬาของประเทศเจ้าภาพ
คนเรียกการแข่งขันชกไฟต์นั้นเป็นไฟต์อัปยศของวงการนักมวย ปาร์คทีแรกก็มีความสุขแต่ตอนหลัง สุขกลายเป็นทุกข์ไปเสียแล้ว เพราะว่าพอถูกรุมประณามจากผู้ดูทั่วโลก แกก็เศร้าเสียใจ แล้วคงรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วเหมือนไปแย่งเหรียญทองมาจากเพื่อนชาวอเมริกัน ไม่รู้สึกภาคภูมิใจเลย แถมยังรู้สึกแย่ด้วย
แล้วความคิดแบบนี้ก็เรียกว่าทับถมเรื่อยมาจนนอนไม่หลับ แม้ใคร ๆ จะเรียกเขาว่าเป็นแชมป์โอลิมปิกในเกาหลีใต้ แต่เขาไม่รู้สึกภูมิใจเลย คำชื่นชมแต่ละคำกลับตอกย้ำความรู้สึกผิดให้กับเขา ตอนหลังแกเป็นโรคซึมเศร้าไปเลย
ตอนที่ได้แชมป์เหมือนกับส้มหล่นเพราะว่าตัวเองสู้ไม่ได้แต่ว่าได้แชมป์ ได้ชื่อเสียง ได้เงินทอง ได้ลาภ ได้เกียรติยศมากมาย แต่กลายเป็นทุกขลาภไปเสียแล้ว ส้มหล่นกลายเป็นภาระที่ทิ่มแทงใจ
ผ่านไปหลายปีเขาถึงกับคิดฆ่าตัวตาย เป็นแชมป์โอลิมปิกแต่คิดฆ่าตัวตาย เพราะว่าเหรียญทองที่ว่านี้ แม้เขามีเพื่อนมีครอบครัวที่คอยช่วยเหลือประคับประคองเขาไว้ไม่ให้คิดสั้น แต่เขาก็ทุกข์มาตลอด
จนกระทั่งผ่านไป 35 ปี คือเมื่อ 2 ปีที่แล้วเขากับครอบครัวรวมทั้งลูกด้วย เดินทางไปอเมริกา จุดหมายคือ ยิมที่ฝึกซ้อมของรอย โจนส์ จูเนียร์ ไปเพื่ออะไร เพื่อขอพบโจนส์ ไม่ใช่พบเปล่า ๆ เอาเหรียญทองโอลิมปิกของเขาคืนให้กับโจนส์ด้วย แล้วก็บอกว่าผมมาเพื่อคืนเหรียญทองเหรียญนี้ให้กับคุณ เพราะคุณสมควรเป็นเจ้าของเหรียญนี้จริง ๆ
โจนส์พอได้รับเหรียญเขาร้องไห้เลย เพราะเขารู้สึกอยู่เสมอว่าเขาถูกโกง แม้เขาจะได้แชมป์มาอีกหลายครั้งในนัดสำคัญต่าง ๆ มากมาย แต่ก็ยังทำให้เขามีความรู้สึกแย่ พอได้รับเหรียญนี้ เขาก็รู้สึกดีใจ แต่คนที่ดีใจมากที่สุดก็คือปาร์ค เพราะว่ามันเหมือนกับยกภูเขาออกจากอก หรือหยิบเอาหนามหรือมีดที่มันทิ่มแทงใจเขาออกไป
ความรู้สึกผิดติดค้างใจ 35 ปีคลายออกไปเลย แล้วเขาก็ยิ้มได้ ก็น่าคิดถ้าเกิดว่าเขาไม่ยอมคืนเหรียญนี้ ยังเก็บงำความรู้สึกนั้นเอาไว้ ไม่ประกาศให้ใครรู้ว่า จริง ๆ แล้วเขาไม่ใช่เป็นคนที่สมควรได้เหรียญนี้เลย ถ้าเขารู้สึกผิดติดค้างคาอยู่ในใจเขาจนกระทั่งเขาตาย ก็น่าสงสัยว่าเขาจะตายสงบไหม
การที่เขาทำอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นความกล้า กล้าที่จะประกาศให้โลกรู้ว่า เขาไม่ใช่ผู้ชนะที่แท้ การที่จะทำอย่างนี้ได้เรียกว่าสวนทางอัตตามาก เพราะว่าอัตตาหรือตัวกูต้องการประกาศในโลกรู้ว่า กูเก่ง กูแน่ แม้กูไม่เก่ง ก็ไม่อยากจะให้ใครรับรู้ แต่นี่เขากล้าที่จะประกาศให้โลกรู้ว่า เขาไม่สมควรเป็นแชมป์ครั้งนั้นเลย คนที่เป็นแชมป์แท้จริงคือโจนส์มากกว่า
แต่ว่ามันก็คุ้มเพราะการแสดงความกล้าของเขา ทำให้เขากลับมาเป็นผู้เป็นคนได้อีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขาเอาเหรียญไปคืนให้กับโจนส์เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 แล้วเพิ่งเป็นข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้ โจนส์ต้องการปิดข่าวนี้เอาไว้เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกของปาร์คว่า ถ้าประกาศข่าวนี้ออกไป ผลกระทบจะเป็นอย่างไร
ปาร์คคิดว่า 2 ปีก็นานพอแล้ว ก็เลยประกาศให้โลกรู้ว่าจริง ๆ แล้วแชมป์โอลิมปิกปี 2531 เขารู้อยู่เสมอว่าเขาไม่ใช่เป็นแชมป์ที่แท้จริง
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าทึ่งเพราะว่าคนเราเวลามีความรู้สึกผิดติดค้างใจแบบนี้ ก็ไม่ค่อยอยากจะประกาศให้โลกรู้ หรือไม่อยากจะแสดงความรู้สึกเสียใจ หรือขอโทษ แต่สิ่งที่เขาทำเป็นการขอโทษ ทั้ง ๆ ที่อาจจะไม่ใช่เป็นความผิดของเขาเลย เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นคนลงมือโกง แต่ว่ากรรมการตัดสินให้เขาได้ชัยชนะเอง แต่เขาก็รู้สึกว่าไม่สมควร
แล้วเขาคงจะรู้ว่ามันมีความไม่ชอบมาพากลอยู่เบื้องหลัง เพราะว่าปีนั้นเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ แม้ว่าเขาจะได้ประโยชน์ แต่เขารู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมในการโกงครั้งนั้นด้วย ทำให้เขารู้สึกเสียใจ
คนเราแม้ว่าเราจะได้โชคได้ลาภแต่ถ้าได้มาด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง แม้จะไม่ใช่ลงมือทำเองแต่ว่าพลอยได้รับประโยชน์ ไม่มีความสุข ใคร ๆ บอกอยากได้ส้มหล่น ๆ แต่พอหล่นจริง ๆ แล้วกลับกลายเป็นหินที่อาจจะทับ อาจจะไม่ได้ทับกายแต่มันทับใจ จนกระทั่งไม่สามารถที่จะมีความสุขได้
แล้วคนเราถ้ารู้สึกผิดแล้ว ไม่มีทางใดที่จะดีไปกว่าการที่จะคลายความรู้สึกผิดนั้นด้วยการขอโทษ แม้ว่าจะไม่ได้มีเจตนาที่จะโกง หรือเจตนาที่จะทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น แต่คนเรามีมโนธรรม เวลาเกิดอะไรที่ไม่ถูกต้องแม้ว่าจะไม่ได้เป็นการกระทำของตัว หรือยิ่งเป็นการกระทำของตัวแล้วนี่ แม้จะมีจะร่ำรวยอย่างไร แม้จะมีชื่อเสียงอย่างไร แต่ว่าก็เกิดอาการที่เรียกว่า หน้าชื่นอกตรม
ขึ้นชื่อว่าการทำชั่วแล้ว อย่างไรมันก็ย่อมเกิดผลร้ายต่อผู้กระทำหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ฉะนั้นคนเราถ้าไม่ทำชั่วเสียเลยดีกว่า แต่เมื่อทำแล้วแม้ว่าจะไม่ตั้งใจแต่มีคนเดือดร้อน ก็ต้องรู้จักหาทางเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกด้วยการขอโทษ
เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมปาร์ค ซีฮุน แม้ว่าเขาจะเก็บงำความลับไว้นาน แต่สุดท้ายเขาก็รู้ว่าความลับนี่มันมีแต่จะทิ่มแทงจิตใจเขา สู้เปิดเผยไปเลยดีกว่าด้วยการขอโทษ และด้วยการคืนเหรียญให้ ทำให้จิตใจเขาปลอดโปร่งเบาสบายมากขึ้น แม้ประวัติศาสตร์จะจารึกว่าเขาเป็นผู้แพ้ ไม่ใช่แชมป์ที่แท้จริง แต่เขาสบายใจมากกว่า
นี่เป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนา แล้วก็น่าเอามาเป็นแบบอย่าง เพราะคนเราย่อมมีความผิดพลาด ถ้าเรารู้จักเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกด้วยการขอโทษ ก็จะทำให้ความทุกข์ที่มันกดทับจิตใจของเราเอาไว้ คลี่คลายลงไปได้.