PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • ความไร้น้ำใจในเมืองใหญ่
ความไร้น้ำใจในเมืองใหญ่ รูปภาพ 1
  • Title
    ความไร้น้ำใจในเมืองใหญ่
  • เสียง
  • 14092 ความไร้น้ำใจในเมืองใหญ่ /aj-visalo/2025-09-15-08-44-37.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 15 กันยายน 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 14 กันยายน 2568
    ที่ประเทศอเมริกา มีเหตุการณ์เล็ก ๆ เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น รถเมล์จอดรับผู้โดยสาร พอถึงป้ายก็เปิดประตู รถเมล์คันนั้นประตูอยู่แนวเดียวกับคนขับ แต่อยู่คนละฝั่ง คนขับอยู่ฝั่งซ้าย ประตูอยู่ฝั่งขวา พอเปิดประตูผู้โดยสารที่รออยู่ก็ทยอยขึ้นรถ
    แต่บังเอิญวันนั้นผู้โดยสารคนแรกเป็นผู้สูงวัย ต้องใช้ Walker ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาเรื่องอัมพฤกษ์อัมพาตหรือเปล่า และคนที่มี Walker เวลาขึ้นรถโดยสารลำบากลำบนมาก และเขาก็ตัวอ้วน ช้า
    ปรากฏว่าผู้ชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับชาย Walker เห็นว่าช้าเหลือเกิน เขาเลยแซง เอาตัวเบียดชายชราคนนั้นเพื่อที่จะได้รีบขึ้นรถ ชายชราคนนั้นก็ล้ม ล้มแล้วลุกขึ้นมายากมาก เพราะว่าตัวก็อ้วน ขาก็ไม่ค่อยดี
    ปรากฏว่าอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่เป็นคนที่ 3 เห็นว่าเชื่องช้าเหลือเกิน ไม่ทันใจ เขาเลยเดินข้ามชายชราคนนั้น
    ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของคนขับรถ คนขับรถเห็นชายชราคนนั้นลำบากลำบนมาก ก็พยายามไปช่วย แนะนำให้ชายชราเอามือเกาะมือจับประตู และพยายามเหยียบบันไดรถ ใช้เวลาพอสมควร เพราะทุลักทุเล
    บังเอิญมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เป็นผู้โดยสารเหมือนกัน มาทีหลัง เธอก็พยายามช่วย เก็บข้าวเก็บของของชายชราคนนั้นซึ่งตกอยู่บนพื้น
    พอชายชราคนนั้นขึ้นมาบนรถ คนขับรถก็ค่อย ๆ ประคองชายชราให้ไปนั่งอยู่กลางรถ เผอิญรถไม่แน่น มีที่นั่ง มีที่ว่างอยู่ เสร็จแล้วเขาก็ขอบอกขอบใจหญิงคนนั้นที่มาช่วยผู้โดยสารให้ขึ้นรถได้ เขาบอกว่า ขอบคุณมากเลย แต่ว่าผมไม่ขอบคุณสองคนนี้ สองคนนี้คือสองคนที่แย่งขึ้น ปล่อยให้ชายชราทุลักทุเลอยู่บนพื้น
    สองคนนั้นบังเอิญนั่งอยู่แนวเดียวกัน แต่คนละฝั่ง คนขับรถก็พูดกับผู้โดยสารในรถว่า คุณเห็นไอ้โง่สองคนนี้ไหม เขาไม่ได้สนใจช่วยคนที่เจ็บป่วยเลย ถ้าเป็นพวกคุณจะทำอย่างนี้ไหม แล้วมาพูดกับสองคนนั้นว่า แล้วทำไมคุณทำอย่างนั้น
    คนหนึ่งบอกว่า ผมรีบ คนขับรถไม่สนใจ ดึงสองคนนั้นออกมา บอกว่า ลงจากรถไปเลย รถผมไม่ต้อนรับ ให้คุณไปหาน้ำใจไมตรีให้เจอก่อนแล้วค่อยขึ้นมาบนรถนี้ คนหนึ่งบอกว่า ฉันมีนัด มีนัดอย่างไรผมไม่สน ให้หาความเมตตาให้เจอก่อนแล้วค่อยกลับมาบนรถ
    นี่เป็นเหตุการณ์ซึ่งมีคนจับภาพไว้ได้ เรียกว่าน่านับถือคนขับรถมาก เพราะว่าเห็นอะไรไม่ถูกต้อง เห็นคนไม่มีน้ำใจ เขาก็ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไป นอกจากช่วยคนที่เดือดร้อนแล้ว คนที่ไม่มีน้ำใจ มิหนำซ้ำทำให้คนแก่ต้องล้มก็ไม่ต้อนรับ ดึงออกมาจากรถ ไม่ให้ขึ้นรถของตัวเอง
    ถ้าเป็นเมืองไทยแบบนี้คงจะยาก เพราะว่าคนขับรถมักจะกลัวผู้โดยสาร เพราะผู้โดยสารอาจจะมีเงินมีทองมากกว่า ร่ำรวยกว่า มีสถานะมากกว่า แต่ในอเมริกา ผู้โดยสารกับคนขับรถ จะรวยจะจนอย่างไรก็สถานะเท่ากัน และยิ่งอยู่ในรถด้วยแล้ว ถือว่าคนที่มีอำนาจมากกว่าคือคนขับรถ
    แต่ที่น่าสนใจคือ เขาไม่นิ่งดูดาย อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ไม่ปล่อย
    เดี๋ยวนี้คนที่จะใส่ใจกับคนที่เดือดร้อนมีน้อยลง ใครที่เดือดร้อนหลายคนก็นิ่งดูดาย ไม่ใส่ใจ ถือว่าไม่ใช่ธุระของฉัน แต่ละคนมีเหตุผลที่จะไม่สนใจ อย่างผู้ชายคนที่ 3 เดินข้ามตัวของคนชราไปเลย ขณะที่คนแรกเบียดให้เขาล้มลง เหตุผลคือว่า ผมรีบ เรามักจะมีข้ออ้าง
    และบางทีการไม่สนใจ นิ่งดูดายทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่
    ในอเมริกาเมื่อเดือนที่แล้วมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้น ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งรถอยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นรถใต้ดินหรือว่ารถเมล์ และมีคนผู้ชายคนหนึ่งอายุ 30 กว่าขึ้นมาบนรถ นั่งเบาะหลัง และจู่ ๆ ก็เอามีดมาทำร้ายผู้หญิงอายุ 23 ที่นั่งอยู่เบาะหน้า ใช้มีดทำร้ายอย่างสาหัส ไม่มีใครสนใจ
    คนบนรถมีหลายคน แต่ละคนเอาแต่จ้องมองโทรศัพท์ ผู้หญิงคนนั้นถูกปล่อยให้นั่งมีกองเลือดเต็มบนพื้น สุดท้ายก็ตาย ไม่มีใครสักคนที่ไปดูอาการของผู้หญิงคนนั้น อาจจะป้องกันไม่ทัน แต่ว่าดูอาการได้ เมื่อรู้อาการแล้วอาจจะโทร 911 ในอเมริกาไม่ใช่ 191 แต่คือ 911 เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือไม่ก็เรียกตำรวจ ไม่มีใครสนใจเลย ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นตาย
    แต่ละคนมีเหตุผลว่า ฉันกำลังรีบ หรือว่า ฉันกำลังแชทกับเพื่อน แต่เหล่านี้เป็นข้ออ้าง คนเรามักจะมีข้ออ้าง หรือบางคนอาจจะคิดว่า ถึงฉันไม่ช่วย คนอื่นก็ช่วย นี่ก็เป็นข้ออ้างเหมือนกัน ถึงฉันไม่ทำ คนอื่นก็ทำ ถึงฉันไม่ช่วย คนอื่นก็ช่วย เพราะฉะนั้นฉันไม่ช่วยดีกว่า
    กลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่ในอเมริกา เพราะผู้หญิงคนนั้นพอตาย ตายท่ามกลางสายตาผู้คนในรถ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าทำไมฆาตกรถึงทำอย่างนั้น ฆาตกรที่ทำอย่างนั้นก็เรื่องหนึ่ง แต่ว่าประชาชนที่อยู่บนรถเมล์ทำไมนิ่งดูดาย
    หลายคนบอกว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่อเมริกา อเมริกาก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ที่จริงในเมืองไทย กรุงเทพฯ ก็มีแบบนี้เยอะ จะไปโทษว่าเป็นเพราะอเมริกาอย่างเดียวก็ไม่ใช่ แต่ต้องเตือนใจตัวเองว่า ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เราจะทำอย่างไร เพราะว่ามันอาจจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเราได้ อาจจะไม่ใช่ถูกทำร้ายด้วยมีด แต่อาจจะล้มเพราะว่าเป็นลมอยู่บนท้องถนน ตรงป้ายรถเมล์ก็ได้
    และถ้าหากว่าเราไม่ทำอะไรเลย นิ่งดูดาย และต่อไปถ้ามันเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก เกิดขึ้นกับลูกของเรา เกิดขึ้นกับตัวเรา เราจะรู้สึกอย่างไร
    เพราะฉะนั้น เวลามีคนที่เขาตกทุกข์ได้ยากเดือดร้อน อย่านิ่งดูดาย แม้เราจะป้องกันไม่ได้ เช่น คนถูกรถชน ถูกชนไปแล้ว ควรหรือเปล่าที่เราจะขับรถผ่านเลยไปแทนที่จะมาช่วยเขา
    บางคนกลัว กลัวมิจฉาชีพ กลัวคนมาแกล้งเป็นผู้ประสบภัย อันนั้นก็สมควรอยู่ แต่ว่าอย่าให้มันเป็นข้ออ้างจนกระทั่งเราละเลยที่จะช่วยเขา เพราะเขาอาจจะเดือดร้อนจริงก็ได้ ไม่ใช่มิจฉาชีพที่อำพรางตัวเอง
    อันนี้คือสิ่งที่เราต้องเตือนใจ และเผื่อใจไว้อยู่เสมอ เพราะอาจจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไรก็ได้.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service