PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • ทำอย่างไรจะทำสิ่งดี ๆ ได้เป็นประจำ
ทำอย่างไรจะทำสิ่งดี ๆ ได้เป็นประจำ รูปภาพ 1
  • Title
    ทำอย่างไรจะทำสิ่งดี ๆ ได้เป็นประจำ
  • เสียง
  • 14093 ทำอย่างไรจะทำสิ่งดี ๆ ได้เป็นประจำ /aj-visalo/2025-09-15-08-46-06.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 15 กันยายน 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 15 กันยายน 2568
    อีก 3 อาทิตย์เท่านั้นก็จะออกพรรษาแล้ว จาก 3 เดือน เหลือ 3 อาทิตย์ ใครที่ตั้งใจว่าจะทำสิ่งดี ๆ ในพรรษานี้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันเข้าพรรษา และถ้าเกิดว่ายังไม่ได้ทำ หรือว่าทำแบบกระท่อนกระแท่น ยังมีเวลาอีก 3 อาทิตย์ที่จะตั้งใจทำอย่างที่อธิษฐานเอาไว้ หรือว่าทำอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ยังมีเวลาอยู่
    หลายคนตั้งใจว่า ในพรรษานี้จะสวดมนต์เป็นประจำทุกวัน นั่งสมาธิเจริญสติทุกวัน หรือว่าวิ่งออกกำลังกายทุกวัน แต่จนแล้วจนรอด มาถึงวันนี้ยังไม่ได้ทำเท่าไรเลย ถ้าปล่อยใจอย่างที่ผ่านไป 2 เดือนที่ผ่านมานี้ อาจจะกลายเป็นว่า ทั้งพรรษาไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก มีความตั้งใจดี แต่สุดท้ายไม่ได้ทำ
    ถ้าคิดว่าอีก 3 อาทิตย์ที่เหลือเราจะทำให้ได้อย่างที่ตั้งใจ อันนี้เป็นเรื่องที่ดี แต่จะทำอย่างนั้นได้ ต้องกลับมาทบทวนใคร่ครวญว่า ทำไมที่ผ่านมา 2 เดือนเศษ สิ่งดี ๆ ที่ตั้งใจจะทำถึงไม่ได้ทำเลย หรือทำอย่างกระท่อนกระแท่น
    หลายคนอ้างว่า ไม่มีเวลา นี่เป็นคำอ้างที่ใช้บ่อยมาก เช่นเดียวกับเวลาไปที่ไหนสายก็จะอ้างว่ารถติด กลายเป็นสูตรสำเร็จไปแล้ว ต้องกลับมาใคร่ครวญว่า เราไม่มีเวลาจริงหรือเปล่า ถ้าไม่มีเวลานั่งสมาธิเพียงแค่ 10 นาที แต่มีเวลาไถมือถือเป็นชั่วโมง อันนี้แสดงว่าไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง
    หลายคนบอกว่า ไม่มีเวลาไม่มีเวลาทำสิ่งดี ๆ แต่อะไรที่สนองกิเลส ทำความพึงพอใจ แม้จะเกิดความเสียหาย เช่น เสียเงินเสียทอง เสียเวลา ไม่ได้พักผ่อน กลับมีเวลาให้กับมันเป็นชั่วโมง ๆ เป็นวัน
    ยิ่งกว่านั้น คนที่บอกว่า ไม่มีเวลา ๆ แต่ทำไมถึงมีเวลาให้กับความทุกข์ มีเวลาให้กับความเศร้าความโศก ให้กับความเครียด ทำไมเราถึงมีเวลาให้กับความโศกความเศร้า ความเครียดวันละหลายชั่วโมง หรือเป็นวัน แต่ว่าแค่นั่งสมาธิ 10 นาที วิ่งออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง เรากลับไม่มีเวลา
    นั่นแสดงว่า ไม่มีเวลาไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง แต่เป็นเพราะไม่ใส่ใจมากกว่า หรือมิฉะนั้นก็เพราะว่าไม่มีการจัดการเวลาให้ดีพอ
    ถ้าต้องการทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ ต้องกำหนดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ ทำวัตรสวดมนต์ ออกกำลังกาย ต้องกำหนดเวลา 7 โมงเริ่ม ถึง 7 โมง 10 หรือว่า 6 โมงครึ่งจะเริ่มวิ่ง จะเริ่มออกกำลังกาย ถ้ากำหนดเวลาที่แน่ชัด และระยะเวลาด้วยยิ่งดี เพราะถ้าไม่กำหนดเวลาก็เหมือนกับลมเพลมพัดไปเรื่อย ๆ แต่ถ้ากำหนดเวลา มันช่วยให้เราพอถึงเวลาแล้ว เราจะทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้
    แต่นั่นหมายถึงว่า บริหารเวลาให้ดี เพราะว่าวัน ๆ หนึ่งเราต้องทำหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกิจวัตรประจำวัน อาบน้ำ ถูฟัน กินข้าว แต่งเนื้อแต่งตัว นั่นก็หนึ่งแล้ว สอง การงาน ซึ่งใช้เวลาเยอะ สาม หน้าที่ที่พึงมีต่อคนที่เราดูแลอยู่ เช่น พ่อแม่ ลูก สามีภรรยา ถ้าจัดสรรเวลาให้กับกิจการต่าง ๆ เหล่านี้อย่างถูกต้อง จะมีเวลาเผื่อไว้สำหรับการทำสิ่งดี ๆ ที่เราตั้งใจจะทำตลอดพรรษา
    แต่ถ้าไม่บริหารเวลา ไม่จัดการเวลาแบบนี้ มันจะอิรุงตุงนังไปหมด สุดท้ายก็ไม่มีเวลาเหลือสำหรับการนั่งสมาธิ อาจจะมีเวลาเหลือก็ตอนเย็นแล้ว ซึ่งไม่ใช่เวลาที่จะเหมาะสำหรับการวิ่งออกกำลังกาย และจะมีเหตุผลหนึ่งว่า ควันเยอะ Pollution มาก ตอนเย็นไม่น่าวิ่งหรอก แต่นั่นเป็นเพราะเราบริหารเวลาไม่ดีต่างหาก
    หลายคนบอกว่า ที่ไม่ได้ทำเพราะลืม อันนี้เป็นเหตุผลใหญ่ ลืม ที่ลืมง่ายเพราะว่าไม่ได้กำหนดเวลาให้ชัดเจน นั่นข้อที่ 1 ข้อที่ 2 คือ ไม่ค่อยได้ทำสม่ำเสมอ
    แต่วิธีการแก้ นอกจากการกำหนดเวลาที่แน่นอนแล้ว พยายามพ่วงสิ่งที่เราต้องการทำเข้ากับสิ่งที่เราทำเป็นประจำ เช่น เราอาบน้ำเป็นประจำทุกเช้า ก็พ่วงการนั่งสมาธิ การสวดมนต์เอาไว้ รับรองจะไม่ค่อยลืม หรือว่าเราเก็บที่นอนเป็นประจำ ก็พ่วงการออกกำลังกายไว้ว่า หลังจากเก็บที่นอนแล้ว เราจะออกไปวิ่งออกกำลังกาย
    เอาสิ่งที่ไม่ค่อยได้ทำเป็นประจำ หรือสิ่งที่แปลกใหม่มาพ่วงกับสิ่งที่ทำเป็นประจำ มันจะไม่ค่อยลืม มันจะนึกขึ้นมาได้เลย หลังจากเก็บที่นอนเสร็จ อ้าว ได้เวลาวิ่งแล้ว อาบน้ำเสร็จแล้ว อ้าว ได้เวลาที่เราต้องสวดมนต์ นั่งสมาธิแล้ว อันนี้เป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่ถ้าใส่ใจ เราจะทำได้ไม่ยาก
    หรือทำวัตรสวดมนต์ตอนเย็น อ้าว หลังจากล้างจานเสร็จ เราจะมีการสวดมนต์แล้ว เพราะว่าเราล้างจานเป็นประจำทุกวัน เราก็เอาการสวดมนต์ ซึ่งเป็นของที่ตั้งใจจะทำแต่ไม่ค่อยได้ทำมาพ่วงติดเอาไว้ พอล้างจานเสร็จ อ้าว ได้เวลาทำวัตรสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิก็ได้
    คราวนี้ นอกจากสิ่งดี ๆ ที่อยากจะทำแล้ว มีสิ่งไม่ดีที่เราอยากจะลด อยากจะละ เช่น การกิน การเสพ สูบบุหรี่ กินเหล้า หรือว่าเล่นการพนัน เล่นเกมออนไลน์ หรือว่าดูหนัง หรือว่าชอบช้อปออนไลน์เป็นประจำจนกระทั่งเป็นหนี้เป็นสินมากมาย หลายคนตั้งใจว่าจะลดจะละ รวมทั้งการติดของหวาน การติดพวกกาแฟ อยากจะเลิก เพราะว่าร่างกายฟ้องแล้วว่ากำลังจะป่วยเพราะการเสพสิ่งเหล่านี้มากเกินไป แต่เลิกไม่ได้สักที
    นี่ก็ธรรมดา เพราะว่าคนเรา อย่างที่เขาว่า ดีชั่วรู้หมด แต่อดใจไม่ได้ กิเลสมีกำลังมาก มันสามารถครองใจจนกระทั่งเราไม่สามารถทำสิ่งดี ๆ อย่างที่คิดไว้ได้
    แต่ถ้าเราตั้งใจจะทำในพรรษานี้ 3 อาทิตย์หลังจากนี้ก็ยังไม่สาย เช่น เราอาจจะมีบทโทษตัวเองว่า ถ้ายังทำ ยังกินเหล้า สูบบุหรี่ ยังเล่นเกม เราจะลงโทษตัวเอง บริจาคเงินครั้งละ 100-200 ให้กับสาธารณะ หรือว่างดใช้โทรศัพท์ไป 1 วัน
    หลายคนยอมจ่ายเงิน แต่ว่าถ้างดใช้โทรศัพท์ ไม่เอา แต่ถ้าหากว่าเราตั้งบทลงโทษอย่างนี้ไว้กับตัวเอง มันทำให้เกิดความกระตือรือร้นที่จะลดละอย่างที่ตั้งใจ อันนี้เป็นเรื่องของตัวเราเองที่เราจะจัดการกับตัวเอง ไม่มีใครมาบังคับเรา
    นอกจากนั้น การพยายามขจัดเงื่อนไขที่ทำให้เราตามทำตามใจกิเลส เช่น หลายคนชอบกินของหวานเวลาออกไปข้างนอก ไปกินอาหารข้างนอก ก็ตั้งใจว่าจะไม่ไปกินอาหารข้างนอกในพรรษานี้ เพราะถ้าไปกินอาหารข้างนอก เดี๋ยวก็เจอของหวาน เจอของที่น่ากิน ไขมัน เนื้อ นม ไข่ ก็เผลอกินเข้าไปอีก
    หรือบางคนชอบช้อป เวลาเข้าห้างมีของถูกก็ซื้อจนกระทั่งไม่มีที่เก็บแล้ว ก็อาจจะตั้งใจว่า ในพรรษานี้เราจะเข้าห้างแค่เดือนละครั้ง และจะเข้าห้างต่อเมื่อมีรายการของที่จะซื้อ
    อันนี้ถ้าเรากำหนดเงื่อนไขอย่างนี้จะช่วยลดปัจจัยที่สนับสนุนการทำตามกิเลส อันนี้จะช่วยทำให้เราสามารถทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้
    ที่พูดถึงนี่เป็นเรื่องของการบริหาร บริหารเวลา บริหารจิตใจ และการกำหนดเงื่อนไขกับตัวเอง เพราะถ้าเราปล่อยชีวิตตามสบาย จะมีตัวช่วยมากมายที่จะทำให้เราทำตามใจกิเลส และทำสิ่งที่อยากทำไม่ได้ เราต้องลดตัวช่วยที่โน้มน้าวใจให้ทำตามกิเลส และสร้างตัวช่วยตัวใหม่ที่จะทำให้เราทำสิ่งดี ๆ และลดละสิ่งไม่ดีได้
    และถ้าหากจะทำสิ่งดี ๆ จะให้ดีต้องเริ่มต้นจากสิ่งน้อย ๆ ก่อน ทำน้อย ๆ นั่งสมาธิ ถ้าหากว่าทำไม่ได้ทุกวันเพราะว่าตั้งใจทำครึ่งชั่วโมง ก็เหลือสัก 10 นาที วิ่ง แทนที่จะวิ่ง 1 ชั่วโมงแล้ววิ่งไม่ได้สักที เพราะว่ามันเยอะ อาจจะวิ่งสัก 10 นาทีก่อน แล้วค่อยเพิ่มเป็น 15 นาทีหลังจากวิ่งไปแล้ว 1 อาทิตย์ เริ่มจากน้อย แต่ทำเป็นประจำทุกวัน ดีกว่าเริ่มมาก ๆ แล้วทำแค่ 2-3 วันแรก หรือไม่ได้ทำเลย
    อันนี้เป็นอุบายที่จะช่วยทำให้เราสามารถจะทำสิ่งดี ๆ ในพรรษานี้ได้ ไม่ใช่ว่าผ่านพรรษาไปแล้ว ปรากฏว่าที่ตั้งใจทำเป็นหมันไปหมด เป็นโมฆะไปหมด ทำให้เสียกำลังใจ
    แต่ถ้าหากว่าเราตั้งใจแก้ตัวใหม่ 2 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรเลยอย่างที่ตั้งใจ 3 อาทิตย์ต่อจากนี้ไปเราจะทำให้ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ก็เอาวิธีการอุบายต่าง ๆ ที่พูดมา ที่แนะมานี้เอาไปลองใช้ดู คิดว่าจะเกิดประโยชน์ได้.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service