PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • ของที่ต้องมีในชีวิตนี้
ของที่ต้องมีในชีวิตนี้ รูปภาพ 1
  • Title
    ของที่ต้องมีในชีวิตนี้
  • เสียง
  • 14545 ของที่ต้องมีในชีวิตนี้ /aj-visalo/2025-10-27-03-11-23.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 27 ตุลาคม 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 19 ตุลาคม 2568
    ที่ประเทศจีน มีชายวัยกลางคน ๆหนึ่งชื่อเฉินซี ทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์เขาจะไปอยู่ประจำบนสะพานข้ามแม่น้ำแยงซี ใกล้ ๆ เมืองนานจิง ซึ่งเป็นสะพานใหม่ที่สูงมากและยาว ที่จริงจะเรียกว่าเป็นสะพานใหม่ก็ไม่เชิง เพราะสร้างมา 40 กว่าปีแล้ว
    เขาไปที่นั่นตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น เขาไปทำอะไร เขาไม่ได้เป็นตำรวจ ไม่ได้เป็น รปภ เป็นแค่ประชาชนเต็มขั้น แต่เพียงแค่เขาไปอยู่บนสะพาน 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 20 ปี เขาสามารถช่วยชีวิตคนได้ถึง 500 คน ไม่น้อยเลย คนเราถ้าช่วยชีวิตคนได้คนเดียวก็ถือว่าเป็นชีวิตที่ประเสริฐแล้ว เขาไม่มีปืน ไม่มีอาวุธใด ๆ สิ่งที่มีคือ น้ำใจ
    เวลาเขาเห็นใครก็ตาม หญิงหรือชาย หนุ่มหรือแก่ สาวหรือชรา ซึ่งส่วนใหญ่ก็หนุ่ม ๆ สาว ๆ ยืนอยู่ลำพังอยู่บนสะพาน เขาจะเดินเข้าไปหา และเขาจะถามว่า มีเรื่องทุกข์ใจอะไรไหม บอกหน่อยได้ไหม แค่นี้แหละ อีกฝ่ายหนึ่งจะเล่าให้ฟังพรั่งพรูออกมา ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดเป็นเรื่องความทุกข์ รวมทั้งความท้อแท้สิ้นหวัง และเฉินซีเขาจะบอกว่า ลองหาทางอื่นดีกว่า ขอให้กำลังใจ
    ที่พูดอย่างนี้เพราะว่าแทบทุกคนที่ยืนอยู่บนสะพานเขาต้องการฆ่าตัวตาย มีความทุกข์มาก ส่วนใหญ่ไม่ใช่ทุกข์ให้เพราะหิว ไม่ใช่ทุกข์เพราะป่วย แต่ทุกข์เพราะมีปัญหา งานการบ้าง ความสัมพันธ์บ้าง หรือบางคนก็เป็นโรคซึมเศร้า
    พอเขามานั่งฟังหรือยืนฟังคนที่เล่า ช่วยระบายความทุกข์ของคนเหล่านั้นออกไปจากใจได้เยอะ และบ่อยครั้งเฉินซีจะตบท้ายว่า อย่ายอมแพ้ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว ในโลกนี้คุณยังมีอีกหลายคนที่ห่วงคุณ อย่างน้อยก็มีเฉินซีคนหนึ่ง ปรากฏว่าเขาสามารถช่วยทำให้คนไม่น้อยกว่า 500 คนเปลี่ยนใจไม่ฆ่าตัวตาย
    ทำไมเขาเลือกไปที่สะพานแห่งนี้ เพราะสะพานแห่งนี้สร้างมา 40 ปี มีคนกระโจนลงมาเพื่อฆ่าตัวตายมากกว่า 2,000 คน หลายคนแม้จะมีเงินมีทอง หรือมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิม เพราะว่าเศรษฐกิจจีนดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็มีความทุกข์ใจมาก และส่วนใหญ่เวลามีความทุกข์ ไม่มีใครที่เขาจะหันหน้าไปปรึกษาหรือระบายได้
    สิ่งที่เฉินซีทำคือ เปิดโอกาสให้เขาได้ระบายความทุกข์ รับฟังเขาโดยไม่ตัดสิน เฉินซีไม่ได้ห้ามว่า อย่าทำ ๆ อย่าโง่ทำอย่างนั้น แต่เขาแนะนำว่า ลองหาทางอื่นดูสิ และเตือนว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้
    500 คนที่เฉินซีช่วยชีวิตได้ ช่วยบรรเทาความทุกข์ของคนอีก 5,000 คนได้เลย เพราะว่าแต่ละคนที่คิดฆ่าตัวตาย ถ้าเกิดว่าตายไป จะมีญาติพี่น้อง พ่อแม่ อาจจะรวมถึงลูกด้วย คนรักด้วยนับสิบที่จะเศร้าเสียใจ
    หลายคนสรรเสริญว่า เฉินซีเป็นปาฏิหาริย์ในร่างมนุษย์ เพราะว่าช่วยชีวิตคนได้ตั้ง 500 คน
    อะไรทำให้เฉินซียอมเสียเวลาเสาร์อาทิตย์เพื่อไปช่วยชีวิตคนที่สิ้นหวัง เฉินซีบอกว่า ตอนที่เขายังหนุ่ม เขาเคยคิดฆ่าตัวตายเหมือนกัน แต่มีคนแปลกหน้าไม่รู้จักมาช่วย ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ช่วยเตือนสติ ทำให้เขาเปลี่ยนใจ
    และการที่เขาตัดสินใจไม่ฆ่าจะตายเป็นการตัดสินใจที่มีความหมายมากกับชีวิตของเขา เพราะพอไม่ฆ่าตัวตายแล้ว ในที่สุดก็พ้นจากความทุกข์นั้นไปได้ เพราะมีทางออก หรือเห็นทางออก เขาเลยขอบคุณชายแปลกหน้าคนนั้น และไม่รู้ว่าจะตอบแทนบุญคุณเขาอย่างไร เลยตอบแทนบุญคุณด้วยการช่วยคนอื่นต่อไป
    อันนี้เรียกว่าเป็นคนที่มีความสำนึกในบุญคุณ และมีวิธีการตอบแทนบุญคุณที่น่าสนใจคือ ตอบแทนคนแปลกหน้าที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ก็ไปช่วยคนแปลกหน้าคนอื่น ๆ ไม่ให้คิดสั้น หรือคิดทำอย่างเดียวกับที่ตัวเองเคยทำ
    คนอย่างเฉินซีหาได้ยาก แต่ว่าต้องมี ควรจะมีมาก ๆ ในสังคม ไม่ว่าจีน หรือญี่ปุ่น หรือไทย หรือว่าอังกฤษ อเมริกา เพราะเดี๋ยวนี้คนที่ว้าเหว่ เหงา เศร้า และรู้สึกว่าตัวเองไม่มีใครในโลกนี้ มีเยอะมาก ส่วนใหญ่อายุไม่มาก ยังหนุ่มยังสาว บางคนเป็นนักศึกษา
    แต่ว่าสิ่งที่ช่วยให้คนนับเกือบพันหรือว่าครึ่งพันรอดชีวิตมาได้ด้วยฝีมือของเฉินซี ที่จริงจะเรียกว่าด้วยฝีมือของเฉินซีก็ไม่ได้ เฉินซีเขามีแต่ความเมตตา มีน้ำใจ และเข้าใจคนที่ทุกข์ยาก แต่ที่จริงแล้วสิ่งที่เฉินซีทำคือ กระตุ้นให้คนที่คิดสั้นมีสติ พอมีสติก็ได้คิด และเห็นทางออกว่า มีทางออกที่ดีกว่าการฆ่าตัวตาย
    สติช่วยชีวิตของคนไม่น้อยเลย รวมทั้งเฉินซีด้วย พอได้สติแล้วเปลี่ยนใจ คนเราเวลามีความทุกข์ จมอยู่ในความทุกข์มาก ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความผิดหวัง ความท้อแท้ อันนี้เรียกว่า ความหลง และเวลามีความหลงแบบนี้แล้วจะมีเสียงในหัวว่า อย่าอยู่เลย อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ตายดีกว่า เสียงนี้เป็นเสียงที่อันตรายมาก แต่ว่าแพ้สติ พอมีสติเมื่อไร เสียงนี้จะค่อย ๆ หายไป
    และคนทุกวันนี้ ถ้าไม่มีสติอย่างที่ว่า การที่จะพ่ายแพ้ต่อเสียงในหัวที่ชักชวนให้ทำร้ายตัวเองจะมีพลังมาก
    คนเราทุกคนเวลามีความทุกข์ ถึงจุดหนึ่งจะไม่อยากอยู่ อยากตาย เพราะว่าอยู่ไปก็ทุกข์เปล่า ๆ ไม่อยู่ดีกว่า ทุกคนจะต้องมีโมเม้นนี้ สิ่งที่สำคัญที่ต้องมีคือ สติ สติเรียกว่าเป็นของที่ต้องมีในจิตใจของผู้คน คนเราถ้าไม่มีสติคิดสั้นได้ง่าย หรือไม่ก็ทำร้ายคนอื่นได้ง่ายมาก
    เดี๋ยวนี้เราบอกว่า ของมันต้องมีคือ มือถือ แท็บเล็ต iPhone เสื้อผ้าหน้าผมที่เท่ ทรวดทรงองค์เอวที่สวย เราบอกว่า ของมันต้องมีคือพวกนี้ ที่จริงไม่ใช่เลย ของที่ต้องมีคือ สติ เพราะสติจะช่วยให้เราเห็นทางออกของชีวิต ไม่คิดสั้น หรือไม่คิดว่าการจบชีวิตคือทางออกที่ดีที่สุด
    บางทีแค่อารมณ์ชั่ววูบ และถ้าเรามีสติ เราจะผ่านอารมณ์ชั่ววูบนั้นไปได้ และเห็นทางออก แต่ถ้าไม่มีสติ แค่อารมณ์ชั่ววูบก็พาเราจบชีวิตได้ หรือทำร้ายคนอื่น ส่วนใหญ่แค่อารมณ์ชั่ววูบ แต่ถ้ามีสติ อารมณ์ชั่วทำอะไรเราไม่ได้ ช่วยทำให้ใจเราอยู่เหนืออารมณ์ชั่ววูบ และสุดท้ายเราจะพบทางออก
    และเมื่อเวลาผ่านไป เราจะพบว่า ถูกต้องแล้วที่ตัดสินใจแบบนี้ ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เราไม่เลือกจบชีวิตแบบนั้น ไม่พ่ายแพ้ต่อความคิดอารมณ์ชั่ววูบ
    อันนี้เป็นของต้องมี โดยเฉพาะในยุคนี้ โดยเฉพาะหนุ่มสาว ของที่ต้องมีไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่แท็บเล็ต ไม่ใช่รองเท้า ไม่ใช่เสื้อผ้าที่สวยงาม แต่คือ สติ เพราะช่วยชีวิตเราได้ ไม่ให้พ่ายแพ้ต่ออารมณ์ชั่ววูบชั่วคราว
    ที่จริงไม่ใช่เฉพาะหนุ่มสาว แต่กับทุกคนเลย เพราะว่าบางจังหวะบางช่วงชีวิตที่ต้องเจอความทุกข์ ลูกตาย แฟนทิ้ง ล้มละลาย เสื่อมเสียชื่อเสียง อยากตายทั้งนั้นเวลามีความทุกข์แบบนี้ แต่สติช่วยทำให้เราไม่พ่ายแพ้ต่ออารมณ์ชั่ววูบ และเราจะเห็นทางออก และสามารถที่จะมีชีวิตใหม่ เดินหน้าต่อไปได้ อย่างที่ภาษาสมัยใหม่เขาเรียกว่ามูฟออน Move on ไปได้.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service