แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 24 ตุลาคม 2568
เดี๋ยวนี้โรคที่คนเป็นกันมากโรคหนึ่งคือ โรคซึมเศร้า อาจจะน้อง ๆ มะเร็ง ในหลายประเทศมีปัญหาเรื่องนี้มาก อย่างในสวีเดน ประชากร 1 ใน 5 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า ไม่น้อยเลย และเป็นกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กวัยรุ่น ผู้ใหญ่ จนคนแก่ แต่ก่อนนี้ หรือแม้กระทั่งทุกวันนี้ยังนิยมให้ยาเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า แต่หลายกรณี หรืออาจจะเรียกว่าส่วนใหญ่ก็ได้ ไม่ได้ผล เมื่อเร็ว ๆ นี้ สวีเดนเขามีนโยบายใหม่คือ ให้ผู้ป่วยไปเที่ยวธรรมชาติ เวลาหมอวินิจฉัยว่าใครเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนี้มีหมอนับร้อยตามเมืองต่าง ๆ เขาใช้วิธีนี้คือ ออกไปสั่ง แต่ไม่ใช่สั่งยา แต่ให้ไปท่องธรรมชาติ เพราะว่าสวีเดนมีธรรมชาติเยอะ ทั้งเกาะแก่งมีตั้ง 30,000 เกาะ มีทะเล มีป่าดิบเขา เพราะว่าเขาอนุรักษ์เอาไว้ดี
หมอจำนวนไม่น้อยเริ่มแล้ว สั่งให้คนไข้ไปทำกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติ เช่น ไปเดินอย่างมีสติในป่า ให้ไปอาบน้ำ แช่น้ำในอ่างไม้ท่ามกลางธรรมชาติ ฟังเสียงคลื่นทะเล หรือว่านั่งสมาธิในป่า และไม่ได้ให้ไปทำเฉย ๆ ให้มารายงานด้วยว่า ที่หมอสั่ง ไปทำไหม หมอให้กำหนดเป็นชั่วโมง 10 ชั่วโมง 20 ชั่วโมง แล้วค่อยมาหาหมอ อันนี้เพราะว่ามีรายงานการวิจัยว่า คนเราถ้าหากว่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สุขภาพจิต สุขภาพกายจะดีขึ้น หัวใจก็จะดีขึ้น ความดันก็จะดีขึ้น จิตใจก็จะผ่องใสเบิกบานมากขึ้น หรือผ่อนคลาย อย่างในมหาวิทยาลัย Uppsala ของสวีเดน เขาทำการวิจัยพบว่า ไม่ต้องไปอยู่ท่ามกลางอุทยานก็ได้ แค่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เช่น ในสวน วันละ 30 นาที 2 อาทิตย์ติดต่อกัน จะลดความเครียดได้ 40 เปอร์เซ็นต์ อันนี้เขาวัดจากพวกฮอร์โมนความเครียด พวก Cortisol อะไรพวกนี้ ลดไปได้ตั้ง 40 เปอร์เซ็นต์ โรคซึมเศร้าก็เช่นเดียวกัน เขาพบว่าคนไข้ที่ปฏิบัติตามหมอไปหาหมอน้อยลง ไปรักษาโรงพยาบาลน้อยลง
และอันนี้เป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นกับหลายประเทศ ตอนนี้ในเกาหลีเขาก็มีการบำบัดเรียกว่า ป่าบำบัด ให้คนป่วย คนที่เครียด คนที่หมดไฟแล้วไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทำกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติ คือในป่า ญี่ปุ่นก็มี อาบป่า แต่นี่เป็นคำแนะนำของผู้รู้ ไม่ใช่เป็นคำสั่งหรือใบสั่งจากหมอ แต่สวีเดนนี่หมอสั่งเลย และเช่นเดียวกับหลายประเทศ ในสกอตแลนด์มีสิ่งที่เรียกว่า Green Prescribing สั่งยาสีเขียว Prescribing คือ สั่งยา คือหมอเป็นผู้สั่งเลย หมอเป็นผู้สั่งให้ไปใช้ชีวิต หรือให้เวลาท่ามกลางธรรมชาติ ตอนนี้มีการแนะนำผู้ป่วยซึมเศร้าให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ หลายอย่าง นอกจากท่องธรรมชาติแล้ว ยังมีการให้ทำกิจกรรมทางสังคม อันนี้อังกฤษเขาทำมานานแล้ว และเป็นนโยบายขององค์กรสุขภาพระดับชาติ คล้าย ๆ กับ สปสช บ้านเรา ของอังกฤษเขาก็มีแบบ สปสช สถาบันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
มีนโยบายว่าหมอสั่งได้ ให้ไปทำกิจกรรมทางสังคม เรียกว่า Social Prescribing ไปวาดรูป ไปทำจิตอาสา ไปปลูกต้นไม้ ไปแกะสลัก แม้กระทั่งเต้นลีลาศ และเก็บชั่วโมงไว้ด้วย เก็บชั่วโมงมาครบแล้วค่อยมาหาหมอ ตอนหลังขยายไปเป็นการบำบัดด้วยการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ หรือว่าสถานแสดงงานศิลปะ เรียกว่า Museum Prescribing ตอนนี้เขาเริ่มทำกันแล้ว ปรากฏว่าคนไข้ที่ไปทำตามหมอสั่งอย่างที่ว่านี้ ลดการไปหาหมอเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์เหมือนกัน และลดการรักษาที่โรงพยาบาล 20 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าได้ผล แต่นั่นหมายความว่า คนไข้ต้องร่วมมือ ข้อดีของประเทศเหล่านี้คือว่า เขามีหน่วยงานที่จะทำหน้าที่นี้ เพราะถ้าให้คนไข้ไปทำ คนไข้ไม่ทำหรอก คนไข้อยากจะนั่งอยู่นิ่ง ๆ เศร้าเจ่าจุก แต่เขาให้ไปทำกิจกรรมกับมูลนิธินั้นมูลนิธินี้ เขาจะมีคนมาพาคนไข้ทำ พาคนไข้วาดรูป พาคนไข้ปลูกต้นไม้ พาคนไข้ไปชมพิพิธภัณฑ์ อันนี้เป็นแนวโน้มใหม่ของการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า แทนที่จะใช้ยา แต่ว่าใช้กิจกรรมทางสังคมซึ่งมีผลต่อจิตใจ
หลายคนนึกว่า ทำไมไม่ไปให้คนไข้นั่งสมาธิ ถ้านั่งสมาธิอาจจะไม่ได้ผลเท่าไร เพราะว่าขนาดคนธรรมดานั่งสมาธิ เรายังนั่งไม่ถูกเลย กลับเครียด ฟุ้ง ยิ่งให้คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามานั่งสมาธิ นั่งนิ่ง ๆ ยิ่งฟุ้ง หรือว่ายิ่งจมดิ่งเข้าไปในความทุกข์มากขึ้น เพราะสติเอาไม่อยู่ ฉะนั้น ต้องทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหว มีการใช้มือ ใช้แรงกาย เช่น ออกกำลังกาย ไปเดินเล่นในป่า ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ให้ใจจมอยู่กับอารมณ์ หรือจมอยู่กับความทรงจำเดิม ๆ ไปชมพิพิธภัณฑ์ก็ได้เห็นอะไรสวย ๆ งาม ๆ รวมทั้งภาพงาม ๆ ก็ทำให้จิตใจชื่นบานได้ เรียกว่า ทำกิจกรรมที่พาจิตออกจากการจมอยู่ในความคิด เพราะฉะนั้น การนั่งสมาธิ ซึ่งหลายคนมักจะคิดว่าเป็นทางออกที่ดี ไม่ใช่ ต้องเริ่มต้นจากการทำอะไรง่าย ๆ ก่อน ที่ทำให้ส่งจิตออกไปข้างนอก ออกไปรับรู้สิ่งภายนอก จะได้รู้จักอารมณ์
หลวงพ่อคำเขียนก็ทำแบบนี้เหมือนกัน เวลาคนป่วยซึมเศร้ามาบวช ท่านจะพาชมนกชมไม้ นี่อะไร ดอกอะไร เพราะรู้ว่าถ้าให้มานั่งสร้างจังหวะ เดินจงกรม เดี๋ยวเพี้ยนหนัก แต่นี่มาเล่าให้ฟัง แนวโน้มใหม่ของการรักษาโรคซึมเศร้า ซึ่งเมืองไทยยังไม่มีขนาดนี้ แต่ว่าถ้าเราเอาแนวคิดนี้ไปใช้ พ่อแม่มีลูกซึมเศร้าก็เอากิจกรรมเหล่านี้ไปให้ลูกทำ ชวนลูกทำ หรือทำด้วยกันกับลูก เพื่อนก็ทำกับเพื่อน จะช่วยได้.