PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • เมื่อลูกสงสัยความรักของพ่อแม่
เมื่อลูกสงสัยความรักของพ่อแม่ รูปภาพ 1
  • Title
    เมื่อลูกสงสัยความรักของพ่อแม่
  • เสียง
  • 14551 เมื่อลูกสงสัยความรักของพ่อแม่ /aj-visalo/2025-10-27-03-43-55.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 27 ตุลาคม 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 26 ตุลาคม 2568

    มีสาวจีนคนหนึ่งอายุ 21 ปีชื่อหงส์หยก เธอมีหน้าตา รูปร่างดี และเรียนสูง เรียนมหาวิทยาลัย เธอมีความสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่า พ่อแม่ที่เลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เล็กเป็นเพราะแม่จริงหรือเปล่า เธอคิดว่าไม่น่าเป็นพ่อแม่จริง พ่อแม่ของเธอจริง ๆ น่าจะเป็นเศรษฐี เพราะว่าเธอหน้าตาดี ผมก็สวย แต่แม่หน้าตาไม่ดีเลย ผมก็สีเข้ม เธอแต่งตัวดี ใช้สินค้าแบรนด์เนม แต่พ่อแม่แต่งตัวโทรม เพราะเป็นชาวนาชนบท แถมเธอเรียนมหาวิทยาลัยชั้นดี แต่พ่อแม่เรียนจบประถม เธอสงสัยว่า พ่อแม่จริง ๆ ของเธอจะเป็นเศรษฐี และส่งเงินมาให้พ่อแม่คนที่ดูแลเธอปัจจุบัน

    ฉะนั้น เธอพยายามคาดคั้นความจริงจากพ่อแม่ว่า บอกมาว่าใครเป็นพ่อแม่ฉันจริง ๆ ถ้าบอกความจริง ฉันจะให้เงิน เงินที่เธอจะให้ก็มาจากพ่อแม่นั่นแหละ เธอถึงกับประกาศตามหาพ่อแม่จริง ๆ ว่าเป็นใคร เพราะไม่เชื่อเลยว่าพ่อแม่ที่ดูแลเธอตอนนี้เป็นพ่อแม่จริง ทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งวิถีชีวิตแตกต่างกันมาก สุดท้ายเธอก็บังคับให้แม่ตรวจ DNA เพื่อเอามาเทียบกับ DNA ของเธอ เป็นข่าวเลย และสุดท้ายก็พบความจริงว่า DNA ของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเธอมายืนยันว่าเป็นพ่อแม่จริง และเธอเป็นลูกของเขาจริง ๆ ไม่ใช่ลูกที่เขารับมาเลี้ยง หรือลูกที่เขารับจ้างมหาเศรษฐีมาเลี้ยง กลายเป็นว่าลูกสาว หรือหงส์หยกมึนงงมาก และหน้าแตกไปด้วย ไม่เข้าใจว่า ฉันหน้าตาดี กริยามารยาทก็ดี แต่พ่อแม่หน้าตาโทรม ฉันเรียนสูง แต่พ่อแม่เรียนไม่จบมัธยมด้วยซ้ำ แถมเป็นชาวนา

    และเหตุผลหนึ่งที่เธอระแวงว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเธอไม่ใช่พ่อแม่จริงเพราะว่าพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ ชอบดุด่าเธอ ชอบตำหนิเธอ เธอคิดว่าพ่อแม่จริง ๆ ไม่ทำอย่างนั้นหรอก พ่อแม่จริง ๆ ต้องไม่ดุไม่ด่า ต้องโอ๋ ต้องพูดเพราะ ๆ
    แต่พอเปิดเผยความจริงว่า จริง ๆ แล้ว พ่อแม่ที่ดูแลเธอเป็นพ่อแม่จริง ๆ เพราะ DNA ตรงกับลูกสาว คนที่เป็นแม่ก็อธิบายว่า ที่ดุด่าลูกสาวเพราะว่าลูกสาวไปคบเพื่อนไม่ดี โดยเฉพาะไปคบผู้ชายที่ไม่ดี ไม่ค่อยเอางานเอางานเท่าไร เอาแต่เที่ยวเตร่ แม่เป็นห่วง เลยบอกลูกว่า อย่าไปคบเลยผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็ยังคบ แม่เลยว่าเธอ เป็นการว่าด้วยความหวังดี และแม่บอกว่า ถึงแม้เรา คือ สามีกับตัวเธอ จะยากจน เป็นชาวนา แต่รักลูกมาก เลยพยายามทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ เก็บเงินของตัวเอง ไม่ใช้เลย แต่เอามาให้ลูก เพราะอยากจะให้ลูกมีหน้ามีตา ลูกเลยดูมีสกุลรุนชาติ หน้าตาดี แต่งตัว ใช้เสื้อผ้าสินค้าแบรนด์เนม อันนี้เพราะว่าพ่อแม่รักลูกมาก อยากจะให้ลูกได้มีหน้ามีตาทัดเทียมเพื่อน เพราะฉะนั้น ถึงแม้พ่อแม่จะเป็นชาวนา แต่ยอมทุ่มเทเพื่อลูก

    หงส์หยกไม่เข้าใจว่า ทำไมฉันอยู่สบาย เสื้อผ้าก็ดี เรียนสูง แต่ทำไมพ่อแม่จึงยากจน สงสัยจะไม่ใช่ตัวจริง อันนี้ชี้ให้เห็นถึงค่านิยมหรือความคิดของคนรุ่นใหม่ ที่เขาคิดแบบนี้เพราะคิดว่า แม่ที่อุทิศตัว อุทิศชีวิตเพื่อลูกคงไม่มีหรอก หรืออาจจะคิดไปถึงขั้นว่า คนดี ๆ แบบพ่อแม่ของตัวไม่มีหรอก ถ้าจะมีก็มีแต่ประเภทรับจ้างเขามา รับจ้างเพื่อมาดูแลเด็ก อันนี้อาจจะเป็นเพราะว่าได้ฟังหรือว่าได้ดูข่าวคราว หรือบางทีไม่ได้ดูข่าวคราวหรอก แต่ได้ฟังความเห็นของคน โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย เดี๋ยวนี้ในโซเชียลมีเดียมีความเห็นความคิดร้อยแปด บางอย่างที่ผู้ใหญ่คิดว่าไม่มีใครคิดกันหรอก แต่ว่าเดี๋ยวนี้เด็ก ๆ เขาคิดกัน วัยรุ่นหนุ่มสาวหลายคนเขารู้สึกว่า พ่อแม่ทำไม่ถูกที่ทำให้เขาเกิดมา ทำให้เขาต้องมาเจอกับความยากลำบาก เลยโทษพ่อแม่ และบางทีก็หาว่า ทำไมพ่อแม่ไม่ถามฉันก่อน ก่อนที่จะให้ฉันเกิดมา ไปขนาดนี้ ถึงขั้นฟ้องร้องพ่อแม่ ข้อหาว่า ไม่ได้รับการอนุญาตจากลูกก่อนที่จะให้ลูกเกิดมา

    หรือเบากว่านั้นคือว่า คิดว่าลูกไม่จำเป็นต้องกตัญญูพ่อแม่หรอก เพราะว่าเป็นหน้าที่ แต่รายนี้มาแปลกคือ คิดว่าพ่อแม่จริงคงไปรับเงินค่าจ้างมาจากเศรษฐีเพื่อมาเลี้ยงตัวเธอให้มีหน้ามีตา ให้อยู่ดีกินดี เด็กสมัยนี้ไม่เข้าใจความรักของพ่อแม่ว่ามันเกินความคาดคิดอย่างไรบ้าง พ่อแม่ลำบากเพื่อจะให้ลูกได้อยู่สุขสบาย ความคิดแบบนี้ไม่ค่อยมีในหัวคนรุ่นใหม่แล้ว จะว่าไป ส่วนหนึ่งเพราะว่า พ่อแม่ตอนที่ลูกยังเล็กไม่ค่อยได้เลี้ยงดู หรืออยู่กับลูกเท่าไร ปล่อยให้ลูกอยู่กับมือถือ อยู่กับแท็บเล็ต พอลูกอยู่กับมือถือ อยู่กับแท็บเล็ตก็เปิดรับ เข้าถึงความคิดแปลก ๆ ที่พิสดารชนิดที่พ่อแม่ไม่เคยคิด เพราะอยู่กันคนละรุ่น อยู่คนละโลกจริง ๆ แล้ว การเลี้ยงดูลูกด้วยแท็บเล็ต ด้วยมือถือ ดูเหมือนทำให้พ่อแม่สะดวกสบาย ไม่ต้องไปให้เวลากับลูกมาก แต่สุดท้ายพอลูกโตมา เขาจะมีความคิดแปลก ๆ ซึ่งสร้างความทุกข์ให้กับพ่อแม่มาก

    จะเป็นการดี ถ้าเกิดว่าให้ลูกใช้มือถือ ให้ลูกใช้แท็บเล็ต ต้องมีระยะเวลา หรือว่าต้องให้ลูกโตสักหน่อย หรือมิฉะนั้นต้องไปพูดคุยกับลูก เวลาลูกไปเข้าถึงเว็บไซต์อะไรต่าง ๆ มีเวลาพูดคุยว่า ได้ไปเจออะไรมา ไปเห็นอะไรมา พูดคุยแลกเปลี่ยนกันตั้งแต่ลูกยังเล็ก ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกโตแล้ว มีความคิดพิสดารแล้ว คนที่เป็นพ่อแม่เลยปวดหัว บางทีลูกคิดประหลาด ๆ ถึงขั้นไปเป็นฆาตกรก็มี อันนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษมาแล้ว เพราะว่าเกิดความเกลียดชังผู้หญิง พอไปจีบผู้หญิงแล้วเขาไม่รับรักก็แทงเขาเลย ตัวเองก็อายุ 12-13 เท่านั้นเอง พ่อแม่ไม่เชื่อว่าลูกจะเป็นอย่างนั้น เพราะลูกเก็บตัวอยู่ในบ้าน อยู่ในห้องนอนตลอดเวลา เลิกเรียนก็อยู่ในห้องนอน ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน ไม่ได้ไปคบเพื่อนชั่ว ไม่ได้ไปติดยา แต่ที่ไหนได้ อยู่ในห้อง เข้าถึงเว็บไซต์ประหลาด ๆ มีความคิดพิสดาร จนเกิดความเกลียดชัง เกลียดชังผู้หญิง เกลียดชังคนต่างชาติ เกลียดชังคนต่างศาสนา แบบนี้ก็มี

    เพราะฉะนั้น ถ้ามีลูกต้องมีเวลาให้กับลูก ได้คุยกับลูก อย่างน้อยรู้ว่าเขาคิดอย่างไร  ที่เขาคิดไม่แปลก แต่ว่าถ้าเขาได้รับข้อมูล หรือได้ฟังความคิดความเห็นที่แตกต่างจากตัวเอง จากที่ตัวเองรับรู้มาจะดี ทำให้เขาใจกว้างมากขึ้น
    อันนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่า เดี๋ยวนี้ช่องว่างระหว่างพ่อแม่กับลูกห่างกันมาก ถ้าไม่มีเวลาให้กับลูก ไม่มีเวลาฟังลูก เอาแต่สั่งลูก หรือดูด่าลูก ก็ไม่เกิดประโยชน์ ที่จริงพ่อแม่ดุด่าลูกเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนสมัยก่อน แต่เดี๋ยวนี้เขาเกิดความระแวงว่า ถ้ารักฉันจริงจะดุด่าได้อย่างไร อันนี้ความคิดของคนรุ่นใหม่ไปแล้ว ซึ่งพ่อแม่หรือคนรุ่นก่อนหน้านี้ต้องเข้าใจ และพยายามชี้แจงทำความเข้าใจ.

     

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service