พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 28 ตุลาคม 2568
เดี๋ยวนี้สิ่งหนึ่งที่สร้างความเป็นห่วงให้กับผู้ใหญ่ก็คือ การที่ลูกหลานนักเรียนติดเกมออนไลน์ ติดมือถือ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่รู้กันดีอยู่แล้ว แต่แนวโน้มใหม่กลุ่มคนที่ติดมือถือที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ คนแก่
ที่อังกฤษเขามีศูนย์บำบัดคนที่มีปัญหาติดเกม ระยะหลังพบว่าคนที่มารับการบำบัดเป็นผู้ใหญ่อายุมาก อายุสูงสุดที่มารับการบำบัดคืออายุ 72 ปี ติดเกมอย่างหนัก ในเกาหลี 16 หรือ 15% ของคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไปติดมือถือ ก็ประมาณ 1 ใน 6 หรือ 1 ใน 7 เกาหลีเป็นประเทศที่เทคโนโลยีออนไลน์พัฒนามาก คนมีมือถือกันเยอะ เดี๋ยวนี้คนแก่หรือคนสูงวัยนี้มีมือถือกันเกือบหมด แล้ว 1 ใน 6 หรือ 1 ใน 7 ติดมือถือนี่ก็ไม่ใช่น้อย
อันนี้เป็นแนวโน้มใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งก็คงรวมถึงประเทศไทยด้วย ทำไมคนแก่จึงติดมือถือหรือว่าเป็นพวกแท็บเล็ตมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่ามีเวลาว่างเยอะ เกษียณแล้วก็มักจะไม่ค่อยมีอะไรทำ แล้วก็พออายุมาก ๆ ก็ติดบ้าน ไปไหนไม่ได้ แถมอยู่คนเดียวด้วย ก็เลยเอามือถือ เอาแท็บเล็ต เอาคอมพิวเตอร์ออนไลน์มาเป็นที่พึ่งเพื่อดู Social Media บ้าง เล่นเกมออนไลน์บ้าง หรือว่าดูหนังออนไลน์บ้าง
อีกอย่างหนึ่งก็คือนิสัยเดิมที่มีอยู่แล้วคือ ติดจอหรือชอบอยู่หน้าจอ แต่ก่อนก็คือจอโทรทัศน์ คนในอังกฤษที่อายุ 75 ปีขึ้นไปใช้เวลาอยู่หน้าจอโทรทัศน์วันละ 5 ชั่วโมงครึ่ง ก็เรียกว่ามากกว่าวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นเดี๋ยวนี้เขาไม่ดูโทรทัศน์กันแล้ว
แต่ตอนหลังพอมีมือถือมีแท็บเล็ตแพร่หลายมากขึ้น แล้วก็คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีพวกนี้มาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้วสมัยที่ยังไม่เกษียณ ยังทำงานเป็นผู้จัดการ เป็นพนักงาน เป็นข้าราชการ มาถึงตอนนี้ผ่านมา 10 กว่าปีก็เกษียณ คุ้นเคยกับเทคโนโลยีพวกนี้ ก็เอามาใช้ โดยเฉพาะอายุมากมีเวลาว่างเยอะ แถมไม่ค่อยมีใครอยู่บ้านด้วย เหงา
จากเดิมที่อยู่หน้าจอโทรทัศน์วันละ 5 ชั่วโมง ตอนนี้ก็ให้เวลาหรือใช้เวลาอยู่หน้าจอโทรศัพท์ หน้าจอแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นอีก ดูโทรทัศน์ก็ไม่ได้น้อยลงแต่ว่าที่เพิ่มมาก็คือดูมือถือ ดูแท็บเล็ต หรือว่าใช้คอมพิวเตอร์ออนไลน์
ในอังกฤษ 65% ของชาวอังกฤษอยู่หน้าจอมือถือ จอแท็บเล็ตวันละ 3 ชั่วโมง จากเดิมอยู่หน้าจอโทรทัศน์ 5 ชั่วโมงครึ่ง บวก 3 ชั่วโมงเข้าไป ก็เป็น 8 ชั่วโมงครึ่งอยู่หน้าจอ จอโทรทัศน์ก็เอา จอมือถือก็เอา จอแท็บเล็ตก็เอา แล้วตอนหลังก็ไปหาซื้อเครื่องเล่นวีดีโอเกมเพราะว่ามีเงินซื้อ ก็เลยติดกันใหญ่เลยคราวนี้ ติดมือถือ ติดเกม
อันนี้กำลังกลายเป็นปัญหาของคนแก่หรือผู้สูงวัยทั่วโลก บ้านเราคนแก่ยังไม่ติดมือถือ หรือแท็บเล็ตมากเท่ากับคนหนุ่มสาว แต่อีกไม่นาน 10 ปีข้างหน้าก็คงจะติดกันมากเลย แล้วก็มีปัญหาตามมาก็คือว่า พอติดมือถือมาก ๆ ก็เริ่มติดเกม ปัญหาติดเกมวันนี้ไม่ใช่เป็นปัญหาของเด็กวัยรุ่นแล้ว จะเป็นปัญหาของคนรุ่นเก่า ผู้สูงวัย
หรือไม่ก็นอนไม่หลับ ในเมืองจีนคนสูงวัยที่นอนไม่หลับเพิ่มมากขึ้น แล้วก็สัมพันธ์กับการใช้มือถือ การใช้แท็บเล็ตกลายเป็นเรียกว่าเป็นภัยอย่างใหม่ของคนแก่คนชรา ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพก็คือ เอาแต่นั่งแช่อยู่หน้าจอ ไม่ไปไหน ไม่ออกกำลังกาย ไม่เดิน ไม่ไปพบปะสังสรรค์กับผู้คน แล้วยังเป็นช่องโหว่ให้พวกสแกมเมอร์ พวกมิจฉาชีพมาล้วงเอาเงินของคนแก่
เพราะว่าคนแก่ผู้สูงวัย โทรศัพท์ที่ใช้ออนไลน์หรือใช้เล่นเกมมักจะพ่วงติดอยู่กับบัญชีเงินในธนาคาร เด็ก ๆ วัยรุ่นหนุ่มสาวอาจจะเล่นเกมก็เยอะ แต่ว่าเขาไม่ค่อยมีเงินในบัญชีธนาคารเท่าไหร่ และโทรศัพท์ที่เขาใช้ก็มักจะไม่ได้มีบัญชีที่จะโอนหรือทำธุรกรรมออนไลน์ได้
ต่างจากคนสูงวัย ก็ใช้แอปในการโอนเงิน สะดวกดี แต่ว่าแอปนี้อยู่ในโทรศัพท์ที่ใช้เล่นเกมออนไลน์หรือใช้ติดต่อโซเชียลมีเดีย ก็เป็นช่องให้พวกสแกมเมอร์มาหลอก เพราะว่าคนแก่ไม่ค่อยเท่าทันพวกสแกมเมอร์เท่าไหร่ โดนหลอกง่าย และโดนหลอกไปทีหนึ่งก็หมดกันไปเป็นล้านหรือหมดเนื้อหมดตัวเลย
อันนี้ก็เป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับผู้สูงวัย และเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้ผู้สูงวัยติดมือถือก็เพราะว่า ไม่มีคนช่วยตักเตือน ไม่เหมือนเด็กหรือวัยรุ่นหนุ่มสาวอยู่ในสายตาของพ่อแม่ อยู่ในสายตาของครู มีผู้ใหญ่เป็นผู้กำกับ จะใช้มือถือ จะเล่นเกมก็ทำไม่ได้สะดวก ถูกพ่อแม่เตือน บางทีไปโรงเรียนก็ถูกโรงเรียนห้ามใช้
แต่คนแก่ไม่มีใครเตือน ไม่มีใครดูแล ใช้เต็มที่เลย ก็เลยตกเป็นเหยื่อของมือถือ แล้วก็พวกสแกมเมอร์ได้ง่าย
อันนี้เป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัย หรือกำลังเกิดขึ้นแล้ว ก็เตรียมตัวที่รักษาใจว่า อย่าให้ตกเป็นเหยื่อของพวกสแกมเมอร์ หรือติดมือถือมากเกินไป พยายามหากิจกรรมอะไรทำ จะได้ไม่เหงา แล้วก็จะได้มีการเคลื่อนไหว มีสังคมที่เป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่ติดต่อกันผ่านมือถือหรือแท็บเล็ต
ส่วนลูกหลาน ถ้ายังมีผู้สูงวัยอยู่ในบ้าน ก็คงต้องช่วยกันจับตาดูว่าคนแก่ใช้มือถือเยอะไหม แต่ก่อนก็อยู่หน้าจอโทรทัศน์จนอินกับการเมืองโดยเฉพาะช่วงที่มีความขัดแย้งเรื่องเหลืองแดง คนแก่อินมากที่สุดเลย เพราะว่าอยู่หน้าจอวันละหลายชั่วโมง ตอนนี้กำลังจะอยู่หน้าจอมือถือ จอแท็บเล็ตอีกหลายชั่วโมง
ลูกหลานต้องคอยดู คอยเตือน ชวนพ่อแม่ปู่ย่าตายายไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าง ไม่อย่างนั้นก็จะถูกมือถือ หรือพวกเทคโนโลยีดิจิทัลออนไลน์พวกนี้ทำให้สุขภาพทั้งกายและจิตใจแย่ลง อาจจะรวมถึงทำให้เสียเงินเสียทองเพราะถูกหลอกด้วย อันนี้ก็เป็นภัยใหม่ของคนแก่ในยุคนี้ แล้วก็ยุคต่อไป.